ความคืบหน้าการรื้อถอนอาคารในซอยร่วมฤดี

จันทร์ ๑๗ สิงหาคม ๒๐๒๐ ๑๓:๑๖
นางมาศวัลย์ ปิ่นสุวรรณ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กล่าวกรณีศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาให้ กทม.ใช้อำนาจตามมาตรา 40-43 ของ พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ ดำเนินการกับเจ้าของอาคารขนาดใหญ่ 2 หลังในซอยร่วมฤดี 1,2 เขตปทุมวัน เนื่องจากมีการก่อสร้างผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2535 ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้รื้อถอนอาคารดังกล่าวว่า เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2557 สำนักงานกฎหมายและคดี ได้มีหนังสือแจ้งผลคดีชั้นศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาตามคดี ระหว่างนายแพทย์สงคราม ทรัพย์เจริญ กับพวกรวม 24 คน ผู้ฟ้องคดี บริษัท ลาภประทาน จำกัด ที่ 1 บริษัท ทับทิมทร จำกัด ที่ 2 ผู้ร้องสอด ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ที่ 1 ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ 2 ผู้ถูกฟ้องคดี ลงวันที่ 30 ต.ค. 2557 ว่ากรณีดังกล่าวมีการร้องให้ตรวจสอบเขตทางซอยร่วมฤดีบริเวณตั้งแต่ปากซอยด้านถนนเพลินจิต จนถึงที่ดินบริเวณก่อสร้างอาคารพิพาท เนื่องจากซอย มิได้มีลักษณะเป็นถนนสาธารณะที่มีเขตทางกว้างไม่น้อยกว่า ๑๐ เมตร ตลอดเส้น ดังนั้น การก่อสร้างอาคาร จึงขัดข้อ ๒ ของกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๓ (พ.ศ.๒๕๓๕) ในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.๒๕๒๒ และศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษาให้กรุงเทพมหานคร ดำเนินการภายใน 60 วันนับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด พร้อมทั้งได้แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาแนวทางการดำเนินการตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด

สำนักงานเขตปทุมวัน ได้ออกคำสั่งให้อาคารทั้ง 2 ระงับการก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคาร ห้ามมิให้บุคคลใดใช้หรือเข้าไปในส่วนใดๆของอาคารหรือบริเวณอาคาร และให้ดำเนินการแก้ไขและให้ยื่นคำขอ รับใบอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคาร ต่อมาสำนักงานเขตปทุมวัน ได้ออกคำสั่งให้รื้อถอนอาคาร พร้อมส่งคำสั่งฯ ทางไปรษณีย์ตอบรับ และปิดคำสั่งฯ ณ อาคารดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันสำนักงานเขตปทุมวัน ได้ขออนุมัติจัดสรรงบประมาณรื้อถอนอาคารรายบริษัท ทับทิมทร จำกัด และบริษัท ลาภประทาน จำกัด ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานขอยกเว้นการจัดสรรงบกลางประจำปี พ.ศ.2563

นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กทม. กล่าวว่า จากกรณีที่มีคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ซึ่งเป็นประเด็นของการอนุญาตก่อสร้างอาคารสูงและอาคารขนาดใหญ่พิเศษ เพื่อเป็นการป้องกันมิให้เกิดกรณีพิพาทในลักษณะดังกล่าวอีก จึงมีขั้นตอนก่อนพิจารณาอนุญาตให้ก่อสร้างอาคาร โดยในเรื่องเขตทาง นอกจากจะพิจารณาจากทะเบียนทางหลวงท้องถิ่นแล้ว หากมีปัญหาสภาพเขตทางไม่ชัดเจน จะต้องมีหนังสือสอบถามสำนักงานเขตฯ เจ้าของพื้นที่ ซึ่งเป็นหน่วยงานรักษาที่สาธารณะ เป็นผู้ประสานกับกรมที่ดิน เพื่อรังวัดความกว้างเขตทางมาใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงประกอบการอนุญาตอาคารต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๐๑ วช. ขับเคลื่อนงานวิจัยเชิงพื้นที่ 'ประเทศไทยปลอดภัยจาก PM2.5' มุ่งลดฝุ่นพิษภาคเหนืออย่างยั่งยืน
๑๘:๐๘ TKS จัดประชุมผู้ถือหุ้นปี 2568 ไฟเขียวจ่ายปันผลอีก 0.33 บ./หุ้น
๑๘:๔๙ STECH จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 แจกปันผลเป็นเงินสดหุ้นละ 0.034 บาท
๑๘:๒๒ SGP จัดประชุมผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติเคาะปันผลครึ่งปีหลัง 0.20 บาท/หุ้น
๑๘:๐๖ ผู้ถือหุ้น FLOYD พร้อมใจเห็นชอบ ไฟเขียวทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.08 บาท/หุ้น
๑๘:๑๑ TEKA จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 พร้อมไฟเขียวจ่ายปันผล 0.155 บาท
๑๘:๒๓ BRR จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นเคาะจ่ายปันผล 0.50 บาท/หุ้น
๑๘:๓๘ กลุ่มเหล็กรุ่นใหม่ เข้าพบ 'เอกนัฏ' ประสานเสียงให้กำลังใจ ดันยกเลิกเหล็ก IF กันเหล็กนำเข้าไร้มาตรฐาน
๑๘:๑๘ ดั๊บเบิ้ล เอ จับมือ เอเชีย เอรา วัน และกรมป่าไม้ จัดกิจกรรมรักษ์โลก สร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
๑๗:๒๘ LPH ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห. ไฟเขียวจ่ายปันผลอีก 0.10 บ./หุ้น