นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บมจ. เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มทรัพยากร โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “ETC” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2563
ETC และบริษัทย่อยประกอบธุรกิจ ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าโดยใช้เชื้อเพลิงที่ได้มาจากการแปรรูปขยะอุตสาหกรรมที่ไม่เป็นอันตราย หรือเรียกโดยทั่วไปว่าเชื้อเพลิง RDF (Refuse Derived Fuel) ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าที่มีสัญญากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วจำนวน 16.50 เมกะวัตต์ ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม 3 จังหวัด ได้แก่ จ. สระบุรี จ. อยุธยา และ จ. พิจิตร ทั้งนี้ ETC เป็นบริษัทย่อยของ บมจ.เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน (BWG) ซึ่งเป็นผู้รับบริหารกำจัดกากอุตสาหกรรมรายใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศไทย
ETC มีทุนชำระแล้ว 1,120 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 1,640 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 600 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 95.8 ล้านหุ้นต่อผู้ถือหุ้นของ BWG (Pre-emptive Right) เมื่อวันที่ 4-6 สิงหาคม และเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) 504.20 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 7, 10-11 สิงหาคม ในราคาหุ้นละ 2.60 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 1,560 ล้านบาท มีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 5,824 ล้านบาท ทั้งนี้ มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน ให้แก่ผู้ลงทุนจำนวน 60 ล้านหุ้น ในราคาเดียวกัน การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 85.82 เท่า คำนวณจากกำไรสุทธิใน 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563) ซึ่งเท่ากับ 67.86 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.03 บาท มี บมจ. หลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บล. ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย
นายเอกรินทร์ เหลืองวิริยะ กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ (ETC) เปิดเผยว่า บริษัทมีความเชี่ยวชาญในการสร้างและบริหารจัดการโรงไฟฟ้าที่ใช้ขยะเป็นเชื้อเพลิงอย่างครบวงจร ตั้งแต่การก่อสร้าง จัดหาเครื่องจักร คัดเลือกเทคโนโลยี จัดการปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการผลิต การบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าและเครื่องจักรอุปกรณ์ ตลอดจนการสร้างความสัมพันธ์และรักษาสิ่งแวดล้อมชุมชน ทำให้บริษัทมีข้อได้เปรียบสำหรับการเข้าประมูลโรงไฟฟ้าในอนาคต โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ไปใช้ในการขยายธุรกิจของ ETC และบริษัทย่อยของ ETC ชำระคืนเงินกู้ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ
ETC มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO 3 อันดับแรก ได้แก่ บมจ. เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน ถือหุ้น 43.93% นายภัคพล งามลักษณ์ ถือหุ้น 19.44% และบมจ. อัคคีปราการ ถือหุ้น 7.14% บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ ภายหลังจากหักเงินทุนสำรองต่าง ๆ ตามกฎหมาย
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ สามารถดูรายละเอียด จากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.etcenvi.com และ www.set.or.th