นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางมะตอย เพื่อใช้ในงานก่อสร้างและซ่อมบำรุงทาง เปิดเผยถึง แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 คาดจะเติบโตดีต่อเนื่องจากยอดขายที่ฟื้นตัวจากทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศจากความต้องการยางมะตอย นอกจากนี้ราคายางมะตอยที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยราคายางที่ตลาดต่างประเทศล่าสุดอยู่ที่ 340 ดอลลาร์/ตัน ในขณะที่ต้นทุนราคาน้ำมันดิบที่บริษัทซื้อมาในช่วงไตรมาส 2 ราคาไม่สูง ถือเป็นปัจจัยบวกสนับสนุนผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปีนี้
“สถานการณ์ราคายางมะตอยในตลาดต่างประเทศปัจจุบันราคาพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 340 เหรียญสหรัฐ/ตัน เนื่องจากโรงกลั่นในภูมิภาคนี้ยังใช้กำลังการผลิตต่ำ ส่งผลให้อุปทานยางมะตอยออกมาน้อย จึงเกิดภาวะขาดแคลนยางมะตอย ส่งผลบวกให้ TASCO โดยตลาดต่างประเทศที่มีความต้องการสูงมากโดยเฉพาะประเทศจีนและเวียดนาม สำหรับตลาดในประเทศยังได้รับผลบวกจากการที่มีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2563 ก่อนจะสิ้นปีงบประมาณ ในเดือน กันยายน นี้ เชื่อว่าเป้ายอดขายยางมะตอยในปี 2563 อยู่ที่ 1.9 ล้านตัน จะสามารถทำได้ตามแผนที่วางไว้” นายชัยวัฒน์ กล่าว
ส่วนความคืบหน้าการรับเงินประกันภัยค่าสินไหมทดแทนความเสียหายจากเหตุการณ์เพลิงไหม้โรงกลั่น ส่วนที่เหลือขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา คาดได้ข้อสรุปและรับเงินประกันในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้
ล่าสุดผลประกอบการในงวดไตรมาส 2 ปี 2563 (เมษายน - มิถุนายน 2563) บริษัทฯ มียอดขายยางมะตอย
อยู่ที่ 541,000 ตัน มีรายได้จากการขายและบริการ 6,542 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกที่ผ่านมาร้อยละ 28
มีกำไรสุทธิ 1,719 ล้านบาท ฟื้นตัวจากไตรมาสแรกที่ขาดทุน 784 ล้านบาท
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้น เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.3 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 31 สิงหาคม 2563 และกำหนดการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 กันยายน 2563 เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุนบริษัทด้วยดีเสมอมา ตอกย้ำการที่บริษัทเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ใน SET High Dividend (SET HD)