ETC เข้าเทรดวันแรก 4 บาท ราคาหุ้นพุ่ง 54% โชว์ศักยภาพผู้นำโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย

อังคาร ๑๘ สิงหาคม ๒๐๒๐ ๑๕:๒๑
บมจ.เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ โชว์ฟอร์มแกร่ง เปิดตลาดเทรดวันแรก 4 บาท เหนือจอง 53.85% จากราคาไอพีโอที่ 2.60 บาท

สำหรับผลประกอบการไตรมาส2 ครึ่งปีแรกที่เติบโตขึ้นอย่างชัดเจน โดยมีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้ารวม 311 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93% จากรายได้รวม 161 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 135% จากกำไรสุทธิ 36 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน และสำหรับงบไตรมาส 2 ประจำปี 2563 ซึ่งบริษัทฯ มีรายได้รวม 176 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105 % จากรายได้รวม 86 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรขั้นต้น 99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 203 % (QoQ) และ เพิ่มขึ้น 170% (YoY) จากกำไรสุทธิ 23 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยผลประกอบการที่เติบโตสูงมาจาก การที่บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าขยะครบทั้ง 3 แห่ง ที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 16.50 เมกะวัตต์ เป็นไตรมาสแรก จากเดิมในปีทีแล้ว ETC รับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าเพียงแห่งเดียวที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 8 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าใหม่ทั้ง 2 แห่ง คือ โรงไฟฟ้าขยะ RH และโรงไฟฟ้าขยะ AVA มีอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ FiT สูงถึง 6.83 บาท/หน่วย ซึ่งเป็นอัตราการรับซื้อ ไฟฟ้าที่สูงที่สุด เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงประเภทอื่นและทำให้บริษัทฯมีอัตรา กำไรต่อเมกะวัตต์ค่อนข้างสูง โดยในไตรมาส 2 นี้ ETC มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 56.25% และ มีอัตรากำไรสุทธิ สูงถึง 35% ซึ่งอัตรารายได้รวมและอัตรากำไรของไตรมาส 2 นี้ อาจใช้เป็นมาตรฐานของการดำเนินงานของบริษัทฯ เนื่องจากเป็นผลการดำเนินงานที่มาจากการรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง นอกจากนี้บริษัทฯจะพยายามปรับปรุงเพิ่มความสามารถในการทำกำไร ด้วยการบริหารดูแลซ่อมแซมโรงไฟฟ้า ตลอดจนลดต้นทุนการผลิต การบริหารและต้นทุนทางการเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน”

“ สำหรับแนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทฯ มีแผนการขยายกิจการในอนาคต บริษัทฯได้ศึกษาและวางแผนที่จะประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดต่างๆ ของภาครัฐ อาทิ เช่นโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ และ โรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม 44 เมกะวัตต์ ซึ่งทั้งหมดคาดว่าจะเปิดประมูลปลายปีนี้ โดยบริษัทฯมีความมั่นใจ ด้วยศักยภาพของบริษัทและบริษัทแม่ คือ บมจ. เบตเตอร์เวิลด์ กรีน (BWG) ซึ่งเป็นผู้นำอันดับ 1ด้านการรับบริหารกำจัดกากอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญ และมีปริมาณขยะอัดก้อน(RDF) ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่สำคัญ และมีบริษัทย่อย ที่เป็นผู้รับเหมาในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะและชีวมวลแบบครบวงจร (EPC) จะสามารถประมูลโรงไฟฟ้าได้หลายโครงการ และสร้างการเติบโตให้กับ ETC ได้อย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง” นายเอกรินทร์กล่าวเสริม

บริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอเมนท์ จำกัด (มหาชน) (ETC) เป็น ผู้นำด้านโรงฟ้าขยะแบบครบ คือ มีโรงไฟฟ้าพลังงานขยะอุตสาหกรรม 3 แห่งคือ ที่จังหวัดสระบุรี พระนครศรีอยุธยา และพิจิตร รวมกำลังการผลิต 20.4 เมกะวัตต์ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 16.5 เมกะวัตต์ กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ระยะเวลา 20 ปี โดย ETC เป็น บริษัทในกลุ่มเบตเตอร์เวิลด์ กรีน (BWG) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้รับบริหารกำจัดกากอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และมีโรงงานผลิตขยะอัดก้อน (RDF) ที่มีกำลังการผลิตประมาณ 500,000 ตันต่อปีทำให้ ETC มีความมั่นคงด้านเชื้อเพลิง รวมถึงข้อได้เปรียบด้านคุณภาพ และต้นทุนเชื้อเพลิง

ETC มีทุนจดทะเบียน 1,120 ล้านบาท และมีจำนวนหุ้นทั้งหมด 2,240 ล้านหุ้น ด้วยมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น บริษัทฯ มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2560 – 2562 มีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าจำนวน 184.10 ล้านบาท 325.24 ล้านบาท และ 362.39 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่มีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 3.14 ล้านบาท ในปี 2560 และมีกำไรสุทธิจำนวน 65.35 ล้านบาท และ 56.80 ล้านบาท ในปี 2561 – 2562 ตามลำดับ โดยผลประกอบการเติบโตขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ มีการรับรู้รายได้ค่าไฟฟ้าเต็มปี

จากโรงไฟฟ้า ETC ในปี 2561 และ 2562 ขณะที่ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าจำนวน 134.90 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 24.18 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิสูง 18% นอกจากนี้ ETC คาดว่าจะรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าได้เต็มปีจากโรงไฟฟ้าขยะ RH และ AVA เต็มระยะเวลาที่เหลือของปี ซึ่งโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่งดังกล่าวมีอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ FiT สูงถึง6.83บาทต่อหน่วยซึ่งเป็นอัตราการรับซื้อไฟฟ้าที่สูงสุดเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงประเภทอื่น เนื่องจากภาครัฐส่งเสริมการ ใช้ขยะเป็นเชื้อเพลิง เพื่อลดปัญหาด้านปริมาณขยะของประเทศ

ลักษณะธุรกิจของบริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) (ETC)

ETC ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงจากขยะ (“RDF”) โดยมีโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์แล้วจำนวน 3 แห่ง รวมกำลังการผลิตติดตั้งรวม 20.4 เมกะวัตต์ ได้แก่ 1. โรงไฟฟ้า ETC กำลังการผลิตไฟฟ้า 9.4 เมกะวัตต์มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าปริมาณ 8 เมกะวัตต์ กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 20 ปี 2. โรงไฟฟ้า RH กำลังการผลิตไฟฟ้า 7 เมกะวัตต์ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าปริมาณ 5.5 เมกะวัตต์ กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 20 ปี 3. โรงไฟฟ้า AVA กำลังการผลิตไฟฟ้า 4 เมกะวัตต์ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าปริมาณ 3 เมกะวัตต์กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 20 ปี โดยมีอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ FiT สูงถึง 6.83 บาท/หน่วย และมี บริษัทย่อย คือ บริษัท เอิร์ธ เอ็นจิเนีย แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้รับเหมาสร้างโรงไฟฟ้าแบบเบ็ดเสร็จ คือ การออกแบบวิศวกรรมโรงไฟฟ้า การจัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์โรงไฟฟ้า และการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแบบครบวงจร (EPC) และบริหารและดูแล ซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า (O&M) ซึ่งมีเทคโนโลยีที่น่าเชื่อถือและปลอดภัยต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม

โดย ETC เป็น บริษัทในกลุ่มเบตเตอร์เวิลด์ กรีน (BWG) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจรับบริหารกำจัดกากอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ซึ่งมีโรงงานผลิตขยะอัดแท่ง (RDF) อยู่ภายในกลุ่ม ทำให้ ETC มีความมั่นคงด้านเชื้อเพลิง และข้อได้เปรียบต้นทุนเชื้อเพลิง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ