ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในทุกปีไปเสียแล้ว กับกิจกรรม CSR ครั้งใหญ่ ที่บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เส้นหมี่อบแห้งไวไว จัดขึ้นเพื่อมุ่งสร้างกำลังใจและมอบความสุขแก่น้องๆ ที่บ้านแห่งนี้ โดยร่วมกันทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทุกปี โดย บ้านโฮมฮัก หรือ มูลนิธิสุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน จ.ยโสธร แห่งนี้ ก่อตั้งโดย "ครูติ๋ว -สุธาสินี น้อยอินทร์" บ้านหลังน้อยที่รับหน้าที่ดูแลเด็กๆและเยาวชนที่ประสบปัญหาต่าง ๆซึ่งกิจกรรมในปีนี้เริ่มจากการเปิดบ้านต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก แม่ติ๋ว - สุธาสินี น้อยอินทร์ และเด็กๆ บ้านโฮมฮักทุกคน ด้วยการแสดงแบบจัดเต็ม 6 ชุดรวด อาทิ การแสดงสาวเข็นฝ้าย , รำมวยไทย , อีสานม่วยซืน และรำหญิงโต สาวบางโคม ที่สามารถเรียกร้อยยิ้มจากพี่ๆ ได้ทั้งงาน ต่อด้วยพิธีผูกข้อมือรับขวัญให้ใจพี่ใจน้องผูกสายใยรักตลอดไป
คุณเอกพงษ์ คำเทพ ผู้ช่วยผู้จัดการบริหารผลิตภัณฑ์ แบรนด์เส้นหมี่อบแห้งไวไว บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด เล่าให้เราฟังว่า “กิจกรรมนี้จัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 แล้ว และครั้งนี้ ทางบริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ได้มอบโรงเรือนสำหรับเพาะเลี้ยงพันธุ์สัตว์ อาทิ ไก่ไข่ ,โรงเลี้ยง ห่าน รวมไปถึงโรงเลี้ยงนกกระทา พร้อมกันนี้เรายังมอบพันธุ์สัตว์ต่างๆ อาทิ พันธุ์กบ-พันธุ์ปลา ให้กับทางมูลนิธิฯ โดยมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งเหล่านี้จะเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับน้องๆ ได้เป็นอย่างดีและสามารถให้นำผลผลิตที่ได้ต่อยอดให้เกิดประโยชน์ในการดำรงชีพหรือสร้างอาชีพให้เกิดรายได้ต่อไป”
นอกจากการมอบโรงเรือนเพื่อเพาะเลี้ยงสัตว์ต่างๆ แล้ว ในงานยังมีกิจกรรมไฮไลท์พิเศษ คือการแข่งขันทำอาหาร โดยเชฟตัวน้อยจากบ้านโฮมฮัก พร้อมกิจกรรมเล่นเกมต่างๆ และการรับประทานอาหารร่วมกับพี่ ๆ อย่างเป็นกันเอง กับเมนูพิเศษที่ตั้งใจเตรียมไว้ให้โดยเฉพาะ และปิดท้ายด้วยการเชิญชวนน้องๆ ร่วมกันจุดเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12สิงหาคม 2563 พร้อมกันนี้ ทางทีมงานยังได้มอบเงินสนับสนุนและผลิตภัณฑ์ รวมถึงเครื่องใช้ที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้น้องๆ ได้ใช้ประโยชน์ในอนาคตอีกด้วย
“มีคำกล่าวว่า เราจะสามารถเรียนรู้คุณค่าของการมีชีวิตก็ต่อเมื่อเราได้เป็นผู้ “ให้” และเราในฐานะบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเคียงคู่คนไทยมาอย่างยาวนาน สิ่งหนึ่งที่สำคัญสุดของเรา คือการตั้งใจดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการทำมอบสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม เพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไปในอนาคต ดังนั้น การทำกิจกรรมในครั้งนี้เราจึงมุ่งไปที่ การให้สิ่งที่สามารถต่อยอดความรู้ได้ ซึ่งเปรียบเสมือนการให้ทรัพย์สินที่มีคุณค่าอย่างไม่มีวันหมด ทำให้เขาสามารถนำไปใช้เลี้ยงตัวเอง ครอบครัว ตลอดจนสามารถนำไปต่อยอดเป็นอาชีพได้ต่อไป เพราะเราเชื่อว่าการให้ที่ยิ่งใหญ่ คือการให้สิ่งที่ยั่งยืน” คุณเอกพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย