นายอาลัน ดูเฟส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัทฯมีกำไร 55.05 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2563 เนื่องจากเราสามารถลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและต้นทุนทางการเงินลงได้ถึง 75 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2562 อย่างไรก็ตาม เรายังมีค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย 21 ล้านบาท ซึ่งถือว่าลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว และไตรมาสที่ผ่านมา ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อไตรมาสนี้ คือ การระบาดของ Covid – 19 และการ lockdown ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดการปล่อยสินเชื่อที่ลดลงในระหว่างไตรมาสนี้ เนื่องจากผลของการ lockdown และกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆที่ลดลง ทำให้ยอดการปล่อยสินเชื่อในเดือนเมษายนลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อดูภาพรวมทั้งไตรมาสแล้วเห็นได้ว่ายอดการปล่อยสินเชื่อกลับมาเพิ่มขึ้นเกือบเท่าเดิม นับได้ว่าเดือนเมษายนเป็นเดือนที่ยากลำบากสำหรับเราในการติดตามหนี้ อย่างไรก็ตามเราสามารถติดตามหนี้ได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก และเราดำเนินการติดตามหนี้ได้ดีขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายน ภาพรวมของไตรมาสนี้ ถือว่าการติดตามหนี้ทำได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ สำหรับในประเทศไทย เราอนุมัติการพักชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ไปแล้วเกือบ 10,000 ราย เนื่องจากเราต้องการช่วยเหลือลูกหนี้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้
สำหรับธุรกิจในต่างประเทศ เรายังคงมุ่งเน้นการให้สินเชื่อรายย่อยในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งยังคงที่ในเวลานี้ แม้รายได้จากสินเชื่อรายย่อยเพิ่มขึ้น 3 % เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากอัตราแลกเปลี่ยน ในขณะที่เราคาดหวังการเติบโตของธุรกิจในประเทศเมียนมาร์ ก็มีการ lockdown เนื่องจากการระบาดของ Covid-19 เช่นกัน ซึ่งทำให้ความสามารถในการพบลูกค้าใหม่ของเราลดลง เราคาดว่าจะมีการเติบโตมากขึ้นทันทีที่สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ในขณะที่เราไม่สามารถควบคุมหลายๆปัจจัยได้ การดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้เรามีผลประกอบการที่ดีขึ้นและทำให้บริษัทฯมีกำไร แม้อยู่ในช่วงเวลานี้”
นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ ถือเป็นโชคดีที่เราดำเนินธุรกิจในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วงก่อนสถานการณ์ Covid-19 นี้ เราเริ่มจะมีกำไร ถึงแม้ว่า Covid-19 ทำให้การเติบโตของเราช้าลงในไตรมาสนี้ ซึ่งเราเข้าใจสถานการณ์ดีขึ้น เราคาดว่าจะเริ่มการเติบโตอย่างชาญฉลาดอีกครั้งและใช้ประโยชน์จากเงินสดจำนวนมากที่เรามีอยู่ - มากกว่า 3.1 พันล้านบาท
อีกหนึ่งบริการที่จะทำให้เราเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ คือ “บริการถึงบ้าน” ให้กับลูกค้า Motor for Cash และ Car for Cash แทนที่จะให้ลูกค้ามาที่สาขา พนักงานของเราจะไปบริการถึงบ้านลูกค้า ตั้งแต่ตรวจสภาพรถ รวมถึงขั้นตอนต่างๆจนเสร็จสิ้น เราได้เริ่มให้บริการนี้ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว แต่ด้วยสถานการณ์ Covid-19 ทำให้บริการนี้มีกระแสตอบรับที่ดีขึ้นมาก เนื่องจากตอบโจทย์ความต้องการ สอดรับวิถีใหม่ New Normal ลูกค้าชอบที่จะให้ไปบริการถึงบ้าน ทำให้เราปล่อยสินเชื่อ Motor for Cash ในเดือนมิถุนาปีนี้ได้มากกว่ามิถุนาปีที่แล้ว การที่เรามีกำไรในไตรมาสนี้ คาดว่าบริษัทฯ จะให้ผลตอบแทนที่มากขึ้นแก่บรรดาผู้ถือหุ้นของเรา