ปลัด วธ. กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมาถือว่าบุคลากรข้าราชการ และลูกจ้างประจำเหล่านี้ได้ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับผิดชอบอย่างดี ทุ่มเทกายใจ เสียสละนำมิติวัฒนธรรมไปสร้างประโยชน์แก่ประชาชน สังคมและแผ่นดินไทย สร้างผลงาน ชื่อเสียงให้ วธ. มาโดยตลอด การที่ได้มาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อเป็นประสบการณ์ถ่ายทอดไปยังข้าราชการรุ่นหลังถือเป็นสิ่งที่ดี มีการให้คำแนะนำดีๆในการทำงานของ วธ. ให้ได้รับการยกย่องยอมรับจากบุคคลภายนอก การแก้ปัญหา การทำงานร่วมกับผู้อื่น จนทำให้นานาชาติยอมรับให้วัฒนธรรมไทยมีอิทธิพลระดับต้นๆ ของโลก ความสำเร็จเกิดจากความร่วมมือของข้าราชการทุกระดับ พี่น้องประชาชนทุกคนที่เห็นความสำคัญสืบสาน รักษา ต่อยอดงานศิลปวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่ ขอให้ทุกคนภาคภูมิใจ ขอชื่นชมและเป็นกำลังใจทุกคน
“วัฒนธรรมไม่ใช่เพียงแต่มรดกของคนไทย แต่เป็นมรดกโลก เป็นวัฒนธรรมดีงาม ทั่วโลกได้ประจักษ์และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกันได้จริง ยกตัวอย่าง สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) ทำไมตัวเลขติดเชื้อของไทยลดลง จนไม่มีการเพิ่ม สิ่งที่หลายคนวิเคราะห์ ศึกษาวิจัย ส่วนหนึ่งเห็นว่าบทบาทของวัฒนธรรมของคนไทยทำให้การแก้ไขปัญหาโควิด-19 ได้ เพราะเราเชื่อมั่นศรัทธาแก่ผู้ประกอบวิชาชีพหมอ พยาบาล ยอมรับในผู้นำ บางครั้งจะอึดอัดใจต้องใส่หน้ากากอนามัย อยู่ใกล้กันไม่ได้ เพราะจะเกิดความเสี่ยง ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ อีกทั้งเรามีความรัก ความสามัคคี ช่วยเหลือ มีน้ำใจ มีวินัย ความรับผิดชอบ ขณะนี้ก็ยังไม่มีการระบาดรอบสองตามมา สิ่งนี้เกิดจากการมีวัฒนธรรม คนไทยมีจุดศูนย์รวม มีหลักเดียวกัน เชื่อและยอมรับ รักสามัคคีกัน”นายกฤษศญพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ ปลัดวธ. ได้มีนโยบายสำหรับข้าราชการที่เกษียณอายุราชการ โดยขอให้รวมกลุ่มกันเป็นสมาชิกชมรมข้าราชการอาวุโสของ วธ. เพื่อดูแลเรื่องสวัสดิการข้าราชการที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว ให้ดูแลกันอย่างใกล้ชิด อย่าทอดทิ้ง ให้ทุกคนเห็นความสำคัญ เป็นเครือข่ายวัฒนธรรม และคอยเป็นที่ปรึกษา พี่เลี้ยงให้กับข้าราชการ ให้กำลังใจคนรุ่นใหม่และสานต่องานวัฒนธรรมในอนาคต