ดร.วีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) สสว. จึงได้ดำเนินการภายใต้แนวทาง สสว. CONNEXT “เชื่อมคน เชื่อมเอสเอ็มอี เชื่อมโลก” ซึ่งประกอบไปด้วยการเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน การลดค่าใช้จ่ายเพิ่มประสิทธิภาพ และการเพิ่มช่องทางการตลาด เพื่อช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้กลับมาเข้มแข็ง โดยเชื่อมต่อทั้งช่องตลาดออนไลน์และออฟไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดงานแสดงสินค้า และการทดสอบตลาด และการจับคู่เจรจาธุรกิจ เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการตลาดของผู้ประกอบการเพื่อให้ผู้ประกองการเกิดรายได้ และสร้างพันธมิตรทางการค้า เพิ่มเครือข่ายทางธุรกิจ รวมถึงโอกาสในการขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าของตนเอง รวมไปถึงการพัฒนาสินค้าของตนเองให้เหมาะสมกับสถานการณ์การค้าในปัจจุบัน
“ภายใต้แนวทางดังกล่าว สสว. จึงร่วมกับสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม จัดงาน “สสว.CONNEXT SMEs Food Fest” คุณภาพอาหาร SMEs ไทยสู่ตลาดโลก ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถมีช่องทางการตลาดตลอดจนสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการให้เกิดความช่วยเหลือและหมุนเวียนทางธุรกิจมากขึ้น โดยการจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) โดยจะมีผู้ซื้อที่เป็นกลุ่มซูเปอร์มาร์เกต โรงแรม ร้านอาหาร ที่สนใจสินค้าเข้ามาพูดคุยกับผู้ประกอบการหลังจากจบงานคาดว่าจะเกิดการจับคู่ทางธุรกิจกว่า 400 คู่ เกิดมูลค่าการซื้อขายกว่า 400 ล้านบาท
ปัจจุบันที่มีจำนวนผู้ประกอบกิจการเอสเอ็มอีกว่า 3 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 99.7 ของจำนวนวิสาหกิจทั่วประเทศ ก่อให้เกิดการจ้างงานมากกว่า 10 ล้านคน ซึ่งรัฐบาลมีเป้าหมายที่ทำให้ “GDP SME” เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันร้อยละ 36 เป็น ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ภายในปี 2564 แต่ในช่วงโควิด-19 สสว.ได้สำรวจพบว่าจะมีเอสเอ็มอีที่ได้รับความเดือดร้อนกว่า 1.33 ล้านราย และกระทบกับแรงงานกว่า 4 ล้านคน ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารถือเป็นสาขาที่มีบทบาทมากที่สุดในภาคการผลิตในแง่ของการสร้างมูลค่าเพิ่ม สสว. และ สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ตระหนักในปัญหาที่เกิดขึ้นจึงได้ร่วมการจัดงาน เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างความเข้มแข็งด้านการขยายตลาดให้กับผู้ประกอบการนอกเหนือจากการจำหน่ายในประเทศ”
สำหรับการจัดงาน สสว. CONNEXT SMEs Food Fest มีผู้ประกอบการสนใจสมัครเข้าร่วมเพื่อคัดเลือกกว่า 200 ราย และกรรมการพิจารณาคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติครบถ้วนทั้งการผลิตสินค้าที่น่าสนใจ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และมีความปลอดภัยจำนวน 120 ราย เพื่อนำมาออกบูธจำหน่ายสินค้า อาทิ เครื่องดื่มจากดอกไม้อย่าง น้ำดอกบัว น้ำดอกกุหลาบ จากบริษัท โฮเคน (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารแมลงสตาร์บั๊ก จำกัด แป้งจิ้งหรีด ที่สามารถนำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ โดยจิ้งหรีดเป็นแมลงที่มีโปรตีนสูงและกำลังเป็นที่ต้องการของกลุ่มประเทศแถบยุโรป เป็นต้น นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมบนเวทีและกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ Cooking Show และ Product Present จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วม ช้อป ชิมผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มคุณภาพอย่างจุใจตลอด 6 วันของการจัดงาน จนถึงวันที่ 25 สิงหาคม 2563 ณ ลานสุขสยาม ไอคอนสยาม กรุงเทพฯ