นำโดยนางสาวจิรฐา ทรงเมตตา ประธานกรรมการบริหาร นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายธีรวุฒิ ทรงเมตตา กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มเทคโนโลยีและนวัตกรรม และนายพรเมตต์ ทรงเมตตา กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มงานปฏิบัติการ บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE พร้อมด้วย นายธีรชัย ลีนะบรรจง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนางสาวอรชุลี หล่อสมิทธิกุล กรรมการ บริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) หรือ UWC ร่วมกันแสดงความยินดีและฉลองความสำเร็จดังกล่าว
โดยเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2563 บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ACE และบริษัท เอเชีย คลีน เอ็นเนอร์จี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้ดำเนินการชำระค่าตอบแทนรวมเบื้องต้น (คำนวณจากตัวเลขงบการเงิน ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563) จำนวน 471.81 ล้านบาท (รวมเงินมัดจำ จำนวน 85.12 ล้านบาท) ให้กับบริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) หรือ UWC (“ผู้ขาย”) และรับโอนหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 (รวมทั้งหนี้เงินกู้ที่มีกับผู้ขาย) ของบริษัทผู้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล 3 บริษัท ซึ่งประกอบด้วย 1) บริษัท ยูดับบลิวซี โกเมน ไบโอแมส จำกัด (UKB) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่ ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 2) บริษัท ยูดับบลิวซี อำพัน ไบโอแมส จำกัด (UAB) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 9.5 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่ ตำบลดอนมนต์ อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ และ 3) บริษัท สตึกไบโอแมส จำกัด (SBM) ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 7.5 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่ ตำบลดอนมนต์ อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ จากผู้ขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ค่าตอบแทนที่แท้จริงที่คำนวณจากตัวเลขงบการเงิน ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2563 ซึ่งเป็นวันที่ทำการซื้อขายเสร็จสมบูรณ์ จะถูกคำนวณและชำระส่วนต่างค่าตอบแทน (ถ้ามี) ให้แก่กันในภายหลังตามเงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายหุ้น
การรับโอนหุ้น UKB UAB และ SBM ดังกล่าวข้างต้น ทำให้ UKB UAB และ SBM มีฐานะเป็นบริษัทย่อยของ ACE และเป็นผลให้ ACE เริ่มรับรู้รายได้และผลการดำเนินงานของทั้ง 3 บริษัท เข้ามาในงบการเงินรวมของ ACE ตั้งแต่วันที่รับโอนกรรมสิทธิ์ในหุ้นดังกล่าว เป็นต้นไป
โดย ACE สามารถรับรู้รายได้ทันทีจากการจำหน่ายไฟฟ้าของ UKB ใน Q3/63 ส่วน UAB และ SBM จะพร้อมจำหน่ายไฟฟ้าภายใน Q4/63 เนื่องจากต้องมีการปรับปรุงพัฒนาเครื่องจักร การเดินเครื่องจักรและการบำรุงรักษา ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งทั้ง 3 บริษัทย่อยดังกล่าว มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 26.9 เมกะวัตต์ และมีสัญญาซื้อขายไฟกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแล้ว รวม 22.5 เมกะวัตต์ และคาดว่าทั้ง 3 โรงไฟฟ้าจะสามารถสร้างรายได้ให้ ACE เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 800-900 ล้านบาท ต่อปี
สำหรับการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ ทำให้ ACE มีโรงไฟฟ้าชีวมวลที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มี 9 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 89.1 เมกะวัตต์ เป็น 12 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 116.0 เมกะวัตต์ ทำให้กำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งหมดของ ACE เพิ่มขึ้นเป็น 239.91 เมกะวัตต์ นับเป็นจุดเริ่มต้นในการรุกเดินหน้าขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าของ ACE เพิ่มขึ้นตามเป้าหมาย 1,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2567 โดย ACE จะนำความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และจุดแข็งในด้านต่าง ๆ ที่มีในธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวล มาทำการปรับปรุงพัฒนาเครื่องจักรโรงไฟฟ้า การเดินเครื่องจักรและการบำรุงรักษา การบริหารเชื้อเพลิง การบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน รวมทั้งต้นทุนทางการเงินของ ACE ที่จะเข้าซื้อกิจการให้ดีและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรและเพิ่มอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนให้แก่ ACE ด้วย