นายแจ็ค จาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ปัจจุบัน มีแบรนด์และผู้ค้าเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ลาซาด้าจึงไม่หยุดที่จะค้นหาวิธีใหม่ๆ ในการสร้างคุณค่าให้ทั้งธุรกิจและผู้บริโภค แพลตฟอร์ม LazMall โฉมใหม่ของเราไม่เพียงแต่ปรับเปลี่ยนหน้าอินเทอร์เฟซใหม่เพื่อให้ผู้ใช้งานสะดวกสบายยิ่งขึ้น แต่ยังนำเสนอสินค้าแบรนด์พรีเมียมที่หลากหลายมากขึ้น พร้อมกับมาตรฐานการบริการคุณภาพที่สูงขึ้น เพื่อพัฒนาประสบการณ์การช้อปปิ้งขึ้นอีกขั้นและให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อสินค้าแบรนด์ของแท้ได้อย่างไร้กังวล”
“Lazada On Ground ป๊อปอัพสโตร์แห่งแรกของลาซาด้าในประเทศไทย ที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ใจกลางกรุงเทพมหานคร จะจัดแสดงสินค้าของแบรนด์ชั้นนำบน LazMall มากกว่า 40 แบรนด์ เราจะนำเสนอประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค ด้วยการผสานโลกออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน พร้อมสนับสนุนให้แบรนด์ต่างๆ เข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ในขณะเดียวกันก็สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าปัจจุบันได้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น”
การเติบโตของ LazMall ในประเทศไทย
นับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนกันยายน ปี 2561 LazMall ได้ก้าวสู่การเป็นจุดหมายชั้นนำของสินค้าแบรนด์ของแท้สำหรับผู้บริโภคทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสำหรับแบรนด์ไทยและนานาชาติมากกว่า 18,000 แบรนด์ โดยในเดือนมิถุนายนปีนี้มียอดขายสินค้า จำนวนคำสั่งซื้อ จำนวนแบรนด์ และจำนวนผู้ซื้อ ในประเทศไทย เพิ่มขึ้นถึง 160%, 130%, 600% และ 110% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว
หนึ่งในความสำเร็จที่สำคัญของ LazMall คือ Premium Beauty Mall ในประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยแบรนด์ความงามระดับพรีเมียมมากกว่า 40 แบรนด์ เช่น Estee Lauder, Kiehl’s, Shiseido และ Bobbi Brown กว่า 80% ของจำนวนแบรนด์ทั้งหมดใน Premium Beauty Mall เป็นคู่ค้าแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับลาซาด้า
ไม่เพียงเท่านี้ ลาซาด้ายังเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแห่งแรกที่นำแบรนด์แฟชั่นพรีเมียมจากไทยดีไซน์เนอร์ชั้นนำ เข้าสู่แพลตฟอร์ม ภายใต้ความร่วมมือกับสมาคมแฟชั่นดีไซน์เนอร์กรุงเทพฯ (Bangkok Fashion Society หรือ BFS) ปัจจุบัน มีแบรนด์ดีไซน์เนอร์ไทยชั้นนำกว่า 50 แบรนด์ บนแพลตฟอร์ม Thai Designer Club ของ LazMall และหลายๆ แบรนด์ยังประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 200 เท่า นับตั้งแต่เริ่มขายสินค้าบน LazMall
นอกจากนี้ กลยุทธ์การสร้างแคมเปญร่วมกัน (co-campaign) ของ LazMall ประสบความสำเร็จในการจับคู่แบรนด์ต่างๆ เพื่อสร้างแคมเปญร่วมกัน รวมถึงช่วยเพิ่มการรับรู้ต่อแบรนด์และเสริมประสิทธิภาพการขายได้เป็นอย่างดี โดยลาซาด้าได้นำเอาเทคโนโลยีการจัดการข้อมูล (data technology) และข้อมูลเชิงลึกด้านการตลาด มาใช้ในการเชื่อมต่อแบรนด์ต่างๆ เพื่อให้แต่ละแบรนด์มีโอกาสได้เข้าถึงตลาดใหม่ๆ ตัวอย่างแคมเปญที่ประสบความสำเร็จ ได้แก่ Biotherm Homme x Phillips และ Asava x M.A.C ซึ่งทั้งหมดล้วนมียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 100% จากช่วงเวลาปกติ
LazMall โฉมใหม่
LazMall โฉมใหม่ ไม่เพียงนำเสนอประสบการณ์ระดับพรีเมียมยิ่งขึ้นทั้งสำหรับแบรนด์และนักช้อป แต่ยังเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคด้วยการรับประกันสินค้าแบรนด์ของแท้ นอกจากจำนวนแบรนด์ไทยและต่างประเทศที่มากกว่า 2,000 แบรนด์แล้ว หน้าอินเทอร์เฟซและช่องทางการขาย (touchpoint) ที่ปรับเปลี่ยนขึ้นใหม่จะมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สนุกสนานและเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น
นางสาวธนิดา ซุยวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า “LazMall มีจุดเด่นที่การรับประกันสินค้าแบรนด์ของแท้ และเราจะยังคงเดินหน้ายกระดับมาตรฐานให้ดียิ่งขึ้น เรายินดีต้อนรับแบรนด์ ผู้ค้าปลีก และผู้จัดจำหน่ายสินค้าทุกรายที่สามารถยืนยันว่าสินค้าเป็นของแท้ 100% หากผู้บริโภคพบสินค้าปลอมบน LazMall เรายินดีคืนเงินให้เป็นจำนวน 5 เท่าของราคาสินค้า[1] นอกจากนี้ เรายังรับประกันเวลาในการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็วทันใจ ผู้ซื้อสามารถทราบล่วงหน้าถึงวันเวลาที่จะได้รับสินค้าที่สั่งซื้อไว้”
สำหรับแบรนด์ต่างๆ LazMall มีการปรับเปลี่ยนหน้าอินเทอร์เฟซ ที่มีประสิทธิภาพและสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์และสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติม ได้แก่ ฟังก์ชันการออกแบบดีไซน์และนำเสนอสินค้า ร้านค้าพิเศษ และหน้าร้านที่สร้างขึ้นมาสำหรับแต่ละแบรนด์โดยเฉพาะ ทั้งยังสามารถเข้าถึงโซลูชันส์การจัดการข้อมูล (data solutions) และโซลูชันส์สำหรับธุรกิจต่างๆ รวมถึงการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์ที่ครบวงจร
Lazada On Ground
แบรนด์ชั้นนำบน LazMall ที่ได้ปรับใช้แนวคิดร้านค้าปลีกยุคใหม่ (new retail) ในประเทศไทย อาทิ Samsung, JBL, Huxley, Birkenstock และ LEGO ได้ผสานประสบการณ์ออฟไลน์เข้ากับออนไลน์ โดยให้ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากแอปพลิเคชันลาซาด้า และรอรับสินค้าได้ที่บ้านอย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังสามารถไปลองสินค้าได้ที่หน้าร้านและสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ในภายหลังได้เช่นกัน
ตลอดทั้งเดือนจนถึงวันที่ 6 กันยายนนี้ นักช้อปสามารถเพลิดเพลินไปกับดีลสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เช่น คูปองพิเศษ มูลค่าสูงสุด 1,000 บาท ที่สามารถเก็บได้ที่ป๊อปอัพสโตร์ที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์แห่งนี้เท่านั้นในทุกๆ วันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ เพื่อใช้ในเทศกาลช้อปปิ้ง 9.9 ที่กำลังจะถึงนี้ ซึ่งจะมีการลดสินค้าสูงสุดกว่า 90%
ป๊อปอัพสโตร์จะเปิดให้บริการที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์จนถึงเดือนมกราคม 2564 โดยนำเสนอประสบการณ์ความบันเทิงเหนือระดับผ่านกลยุทธ์ Shoppertainment พร้อมด้วยไลฟ์สตรีมมิงบนฟีเจอร์ LazLive ในแอปลาซาด้าส่งตรงทุกวันจากป๊อปอัพสโตร์ เตรียมพบกับบรรดาอินฟลูเอนเซอร์ เซเลบริตี้ และแบรนด์ชั้นนำมากมายที่จะมาร่วมสร้างสีสัน อาทิ realme, Boots, JUNG SAEM MOOL และ ALAND
“ขอขอบคุณศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ที่ให้ความร่วมมือและเปิดรับแนวทางใหม่ของเรา ซึ่งเป็นการต่อยอดมาจากความร่วมมือในเดือนพฤษภาคม ในการนำร้านค้าผู้เช่าพื้นที่ของสยามเซ็นเตอร์กว่า 40 รายเข้ามาขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม LazMall เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับสยามเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นศูนย์การค้าที่มีความโดดเด่นและแข็งแกร่ง ทั้งยังเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งแรกๆ ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยกระดับสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ร่วมกับลาซาด้า เพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ราบรื่นสำหรับทุกคน ทั้งทางออฟไลน์และออนไลน์” นางสาวธนิดา ซุยวัฒนา กล่าวสรุป