ทีเอ็มบีได้รับการปรับอันดับความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นจากเอสแอนด์พี หนุนโดยแผนรวมกิจการที่ช่วยเสริมความสำคัญของทีเอ็มบีและธนชาตต่อระบบการเงิน

อังคาร ๒๕ สิงหาคม ๒๐๒๐ ๑๗:๐๕
ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือS&P Global Ratings หรือ เอสแอนด์พี โดยเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2563 เอสแอนด์พีได้ประกาศปรับอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของทีเอ็มบีเพิ่มขึ้น 1 อันดับจาก BBB- เป็น BBB โดยระบุว่าการรวมกิจการระหว่างทีเอ็มบีและธนชาตส่งผลให้กลุ่มธนาคารมี Systemic Importance หรือมีความสำคัญต่อระบบการเงินในระดับสูง อีกทั้งยังสามารถดำเนินการตามแผนรวมกิจการได้ตามเป้าหมาย ทำให้คาดว่าการรวมกิจการจะเสร็จสิ้นได้ภายในเดือนกรกฎาคม ปี 2564 ตามแผนที่วางไว้ จึงเป็นที่มาของการปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือในครั้งนี้

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี เปิดเผยว่า ภายหลังการประกาศแผนรวมกิจการกับธนาคารธนชาต ทีเอ็มบีก็ได้รับการปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือขึ้นถึงสองครั้งด้วยกัน ครั้งแรกจาก มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ ซึ่งประกาศปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของธนาคารขึ้น 1 อันดับจาก Baa2 เป็น Baa1 ในปีที่แล้ว และครั้งล่าสุดจากเอสแอนด์พีที่ประกาศไปเมื่อวานนี้ ถือเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองเชิงบวกต่อศักยภาพการรวมกิจการ ความสำคัญของธนาคารภายหลังการรวมกิจการต่อระบบการเงิน และสถานะทางการเงินของธนาคารในด้านต่างๆ

ทั้งนี้ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งทีเอ็มบีและธนชาตยังคงเดินหน้าร่วมกันตามแผนรวมกิจการได้เป็นอย่างดี เพื่อให้การรวมธนาคารเสร็จสิ้นได้ภายในเดือนกรกฎาคมปีหน้า ขณะที่ด้านการดำเนินงานก็ทำได้ตามแผนเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 3 เรื่องหลักซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับธนาคารไม่ว่าจะเป็นการคงสภาพคล่องในระดับสูงด้วยการเติบโตเงินฝาก การเพิ่มคุณภาพงบดุลด้วยการลดยอดหนี้เสีย และการคงเงินกองทุนในระดับสูงมาโดยตลอด จึงมั่นใจได้ว่าธนาคารมีศักยภาพในการรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ณ สิ้นไตรมาส 2 ทีเอ็มบีและธนชาต สามารถเติบโตฐานเงินฝากได้ 3.2% และลดอัตราส่วนหนี้เสียลงมาอยู่ที่ 2.34% ด้านความเพียงพอของเงินกองทุนยังคงแข็งแกร่งและสูงเป็นลำดับต้นๆ ในอุตสาหกรรมธนาคารไทย โดยอัตราส่วน CAR และ Tier I อยู่ที่ 18.6% และ 14.6% สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ 11.0% และ 8.5% ตามลำดับ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ ดร.เอ้ สุดยอดผู้นำด้าน AI เชื่อมั่น รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร จะปฏิวัติการแพทย์ไทย ด้วย AI พร้อมความตั้งใจอันแน่วแน่
๐๙:๐๓ รมว.นฤมล ผลักดันกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
๐๙:๑๖ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนร่วมบริจาคโลหิต 26 ธันวาคมนี้ ชั้น 7 โซน A เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต
๐๙:๔๗ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเต็ม!! ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน
๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย