“บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ฯ มีความยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับตำแหน่งนี้ เรามีความเชื่อมั่นในศักยภาพของอุตสาหกรรมถุงมือยางไทย ที่จะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดโลกเป็น 20% จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 16% ด้วยคุณภาพและมาตรฐานสินค้าในระดับสากล รวมถึงวัตถุดิบน้ำยางที่เราส่งเสริมและเพิ่มมูลค่าให้แก่น้ำยางสด ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของไทย ตลอดจนการขยายกำลังการผลิตและการทำการตลาดเชิงรุก พร้อมเน้นการขายถุงมือยางธรรมชาติที่ถือว่าประเทศไทยมีความได้เปรียบกว่าคู่แข่งในประเทศอื่นๆ” นายวีรสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ บมจ. ศรีตรังโกลฟส์ฯ ได้ปรับแผนงานเร่งขยายกำลังการผลิตของ บมจ. ศรีตรังโกลฟส์ฯ ให้เร็วขึ้นอย่างน้อย 1 ปี โดยจะทยอยเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2564 เป็นต้นไป เป้าหมายคือจะเร่งขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 50,000 ล้านชิ้นต่อปี ให้แล้วเสร็จภายในปี 2566 จากเดิมที่กำหนดไว้ภายในปี 2567 และขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 70,000 ล้านชิ้นต่อปี ให้แล้วเสร็จภายในปี 2569 จากเดิมที่กำหนดไว้ภายในปี 2571 พร้อมกันนี้จะขยายโรงงานเพิ่มขึ้นเป็น 8 แห่ง จากปัจจุบันที่มี 3 แห่งในพื้นที่ภาคใต้
ส่วนแผนงานขยายกำลังการผลิตในระยะยาวเพิ่มขึ้นเป็น 100,000 ล้านชิ้นต่อปี กำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2571 โดยเชื่อว่าด้วยความเชี่ยวชาญในธุรกิจถุงมือยาง การพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยีในการก่อสร้างและการผลิตที่คิดค้นและพัฒนาโดยทีมวิศวกรของบริษัทฯ จะทำให้บริษัทฯ สามารถเร่งขยายกำลังการผลิตได้อย่างรวดเร็ว
“ธุรกิจถุงมือยางเป็นธุรกิจที่ต้องใช้ความรู้ ความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก เนื่องจากถุงมือยางคือสัมผัสแรกที่เราจะได้รับรู้และช่วยปกป้องเราไปพร้อมกับทุกช่วงเวลาในการดำเนินชีวิต ดังนั้นกระบวนการผลิตแต่ละส่วน ทั้งในส่วนวัตถุดิบ กระบวนการผลิต จนถึงการบริหารจัดการต่างๆ จะมีรายละเอียดที่ต้องดูแลเป็นอย่างดี เพราะทุกส่วนจะส่งผลถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์และสุขอนามัยที่ดีต่อผู้ใช้งาน นั่นหมายถึงการที่เราจะสร้างโรงงานผลิตถุงมือยางขึ้นแต่ละแห่ง นอกจากเงินทุนแล้ว คุณสมบัติเบื้องต้นคือจะต้องมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในเรื่องถุงมือยางเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังต้องมีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยอยู่เสมอ สามารถผลิตถุงมือยางได้อย่างมีคุณภาพ ผ่านมาตรฐานการควบคุมทางการแพทย์จากหน่วยงานของรัฐในแต่ละประเทศ เพื่อแข่งขันกับบริษัทคู่แข่งในตลาดโลกได้ ดังนั้นหากขาดคุณสมบัติข้อใดไปอาจจะทำให้ธุรกิจถุงมือยางไปไม่ถึงฝันได้ บมจ.ศรีตรังโกลฟส์ฯ จึงมั่นใจว่าเราจะสามารถดำเนินการขยายกำลังการผลิตและทำให้บริษัทฯ เติบโตขึ้นได้อย่างแน่นอน” นายวีรสิทธิ์ กล่าว