บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์ หุ้น บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) (SCM) ธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคทั้งภายในและต่างประเทศผ่านธุรกิจแบบเครือข่ายแบรนด์ไทยเจ้าแรกที่เข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปแห่งประเทศไทย (SET) ที่เตรียมเข้าเทรดใน SET วันที่ 8 กันยายน 2563 นี้ โดยประเมินมูลค่าพื้นฐานของ SCM ไว้ที่ 2.92 บาท/หุ้น อิง PER 16 เท่า ของประมาณการกำไรต่อหุ้นในปี 2564 เทียบค่า PER เฉลี่ยของบริษัทดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคและบริโภคทั้งภายในและต่างประเทศในลักษณะเครือข่ายขายตรงในภูมิภาคที่ 17 เท่า และมีส่วนลดจาก PER ของกลุ่มพาณิชย์ที่ 26 เท่า
ทั้งนี้ คาดว่า SCM จะมีกำไรปกติ 3 ปีข้างหน้าโตเฉลี่ย 24% ต่อปี จาก 70 ล้านบาท ในปี 2563 เป็น 128 ล้านบาท ในปี 2564 ตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการฟื้นตัวของธุรกิจเครือข่ายในเมียนมา และการเพิ่มประสิทธิภาพการทำกำไรด้วยการลงทุนโรงงานผลิตสินค้าแห่งใหม่
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มองว่า SCM กำลังเข้าสู่ช่วงของการขยายฐานนักธุรกิจและผลประกอบการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเน้นขยายเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศควบคู่กับการเข้าสู่ธุรกิจต้นน้ำเพื่อปรับลดต้นทุนและเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น ซึ่งมีการประเมินมูลค่าหุ้น SCM โดยการเปรียบเทียบมูลค่ากับ PER เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ของผู้ประกอบธุรกิจใกล้เคียงในต่างประเทศที่ 19.00 เท่า โดยคิดเป็นมูลค่าเหมาะสมอยู่ที่ 2.70 บาท/หุ้น อิงจาก PER สำหรับปี 2564
บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) ประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 - 2564 ไว้ที่ระดับ 81.62 ล้านบาท และ 95.70 ล้านบาท ขยายตัวต่อเนื่อง 38.24% และ 17.25% ตามลำดับ สำหรับการประเมินมูลค่าพื้นฐานของหุ้น SCM ได้อิงจาก P/E ที่เหมาะสมจากค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลัง 3 ปี ของกลุ่มอุตสาหกรรมที่ประมาณ 19.00 เท่า คิดเป็นมูลค่าเหมาะสมของหุ้น SCM อยู่ที่ 2.64 บาท/หุ้น
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ประเมินมูลค่าพื้นฐานด้วยวิธี PER โดยประเมิน PER ที่ระดับ 20.00 เท่า หุ้น ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มอุตสาหกรรมที่อยู่ระดับ 24.00 เท่า บนคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 2563 แบบ Fully diluted อยู่ที่ประมาณ 0.13 บาท/หุ้น คิดเป็นมูลค่าที่เหมาะสมออกมาได้เท่ากับ 2.60 บาท/หุ้น