นายแพทย์สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM ในฐานะผู้นำธุรกิจเครือข่ายชั้นนำแบรนด์ไทยที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นรายแรก เปิดเผยว่า เชื่อมั่นว่าหุ้น SCM ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 8 กันยายน 2563 ในกลุ่มพาณิชย์ จะสามารถยืนเหนือราคาเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่ 1.90 บาท/หุ้น เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเห็นได้จากยอดขายและรายได้ในช่วงที่ผ่านมา แม้จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่รายได้ในงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 ยังอยู่ในระดับสูงถึง 417.77 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 19.46 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจาก 16.82 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 15.73%
“กำไรที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งปีแรก สะท้อนให้เห็นถึงการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสินค้าของ SCM สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุค New Normal ได้อย่างลงตัว เพราะผู้บริโภคใส่ใจดูแลสุขภาพ อีกทั้งเรายังมีการปรับกลยุทธ์ขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขายเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ”
CEO นพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCM กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนใน SET ถือเป็นการสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับธุรกิจขายตรง ตอกย้ำว่าเราคือตัวจริง ทีมผู้บริหารมีความเป็นมืออาชีพ มีความโปร่งใส และธรรมาภิบาล พร้อมเติบโตเคียงข้างกับนักธุรกิจเครือข่ายที่มีกว่า 1.8 แสนคนทั่วประเทศ อีกทั้งยังมีตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนทั้ง 6 ประเทศ ประกอบด้วย เมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย และสิงคโปร์ อีกทั้งโรงงานผลิตสินค้าแห่งใหม่ที่ลงทุนไปในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จะช่วยผลักดันมาร์จิ้นให้สูงขึ้น และเป็นแรงส่งที่สำคัญในการผลักดันรายได้และกำไรของบริษัทฯ ในช่วง 3 - 5 ปีข้างหน้าให้เติบโต
นายประเสริฐ ตันตยาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายกล่าวว่า SCM เป็นหุ้นที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งในปีนี้ เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง กำหนดราคา IPO ที่เหมาะสม ซึ่งราคาดังกล่าวคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) ก่อนการเพิ่มทุนเพียง 13.86 เท่า และมีดิสเค้าท์ในระดับที่จูงใจมากเมื่อเปรียบเทียบกับราคาเป้าหมายที่โบรกเกอร์หลายแห่งได้ประเมินเอาไว้ โดยคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หุ้น SCM จะเป็นหนึ่งใน Growth Stock ที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน เนื่องจากธุรกิจมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก จากปัจจัยเรื่องเทรนด์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปที่สอดรับกับแนวทางการดำเนินงานของบริษัทฯ และเตรียมลุยตลาด AEC เต็มตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเมียนมา อีกทั้ง การลงทุนในโรงงานผลิตสินค้าแห่งใหม่ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จะช่วยดันมาร์จิ้นจากการผลิตให้สูงยิ่งขึ้น