นายอรินทร์ บรรจงศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซลคอน จำกัด เผยว่า การเติบโตของอุตสาหกรรมความสวยความงามในไทย คือสิ่งที่เข้ามาพร้อมกับโอกาสใหม่ๆ ของผู้ประกอบการ เซลคอนในฐานะที่อยู่ในอุตสาหกรรม Beauty Supply Chain มาเป็นเวลากว่า 25 ปี ย่อมมองเห็นความต้องการของตลาดเมืองไทยได้ชัดเจน ลูกค้ากลุ่มเครื่องสำอางที่มีโรงงานขนาดเล็ก หรือเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ จะไม่ลงทุนซื้อเครื่องจักรต่างประเทศในราคาสูง แต่จะมองหาเครื่องจักรที่มีราคาเหมาะสมและคุณภาพดีแทน จุดแข็งของบริษัทที่มีประสพการณ์และความรู้ความเข้าใจการทำงานของระบบผสมครบวงจร จึงสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุด และทำให้บริษัทมีแต้มต่อในการขับเคลื่อนธุรกิจไปได้อีกระดับหนึ่ง
“เซลคอน เริ่มจากเป็นผู้นำเข้าเครื่องผสมโฮโมจิไนเซอร์จากต่างประเทศ ในยุโรป ญี่ปุ่น และเกาหลี อาศัยการสั่งสมประสพการณ์ เรียนรู้เทคนิคการทำงานของระบบต่างๆ แล้วจึงเริ่มต้นออกแบบและพัฒนาเครื่องผสมของตัวเองขึ้น ความท้าทายในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่และต้องการผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม ดังนั้นวิศวกรของบริษัทจึงศึกษาในจุดดี-จุดด้อยของเครื่องจักรแต่ละแหล่งผลิต แล้วนำมาออกแบบเครื่องผสมของตัวเองโดยไม่ได้ลอกเลียนแบบใคร โดนไม่ลืมที่จะรับฟังคำแนะนำจากลูกค้าด้วย จึงทำให้สามารถพัฒนาเครื่องจักรที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูง ให้ผลิตภัณฑ์ที่มีอนุภาคขนาดเล็กมาก (1 ไมครอน) เนื้อเนียนละเอียด คุณภาพสูง เหมือนเครื่องผสมทางฝั่งยุโรป ในขณะเดียวกันระบบก็ไม่มีความซับซ้อน ซ่อมบำรุงและใช้งานง่าย ผลิตภัณฑ์มีความสม่ำเสมอ เช่นเดียวกับเครื่องผสมทางฝั่งเอเชีย”
ปัจจุบัน บริษัท เซลคอน จำกัด เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการด้านถังและระบบผสมครบวงจรชั้นแนวหน้าของประเทศไทย ทำการนำเข้า ผลิต ออกแบบ และจำหน่ายถังผสมภายใต้ความดันและสุญญากาศ (Vacuum Mixer), ถังเก็บ (Storage Tank), โฮโมจิไนเซอร์ (Homogenizer) และระบบผสมทุกรูปแบบ ที่ใช้ในการผสมของเหลวที่มีความละเอียดสูง อาทิ ครีม, กาว, สี, เคมีภัณฑ์ โดย เซลคอน มีความเชี่ยวชาญด้านเครื่องจักรโฮโมจิไนเซอร์ ที่ใช้ด้านการผสมครีมในอุตสาหกรรม Beauty Supply Chain เป็นพิเศษ ทำให้บริษัทมีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นกลุ่มเครื่องสำอางถึง 70-75% ในขณะเดียวกันจุดแข็งของ เซลคอน ยังมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้บริษัท ก้าวผ่านวิกฤตจากเหตุการณ์ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 มาได้อีกด้วย
“เราโชคดีเลือกลงทุนใหญ่ 2 ปีก่อนหน้านี้” นายอรินทร์ กล่าว “ปัญหาโควิด-19 สร้างปัญหาให้กับเราเหมือนกับที่อุตสาหกรรมอื่นๆ เจอ ลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทหยุดดูสถานการณ์ ไม่ลงทุนซื้อเครื่องจักรใหม่ แต่โชคดีที่เรามีการลงทุนขยายโรงงานก่อนหน้านี้ทำให้เราสามารถรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเครื่องสำอางที่มีความต้องการเครื่องผสมจำนวนเพิ่มขึ้นในช่วงวิกฤตสำหรับผลิตแอลกอฮอล์เจล โดยในช่วงเริ่มต้นการระบาด บริษัทสามารถขายเครื่องผลิตโฮโมจิไนเซอร์สำหรับผลิตแอลกอฮอล์เจลได้เป็นจำนวนมาก แม้หลังจากประเทศไทยควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ความต้องการในการผลิตแอลกอฮอล์เจลจะลดน้อยลง บริษัทก็ทำการปรับปรุงเครื่องมือเครื่องจักรต่างๆ ที่มีอยู่และซื้อเพิ่มบางส่วน เพื่อเตรียมความพร้อมต่อการกลับสู่ตลาดอุตสาหกรรมความงามที่คาดว่าจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในอนาคต ซึ่งขณะนี้บริษัทได้รับคำสั่งซื้อและสอบถามราคาจากลูกค้าที่เริ่มมีความเชื่อมั่นและต้องการดำเนินงานต่อหลังจากที่หยุดชงักไปเนื่องจากปัญหาโควิด-19 แล้วด้วย”
โดยในช่วงปลายปี 2020 นี้ เซลคอน จะเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการไทยด้าน Supply Chain ที่จะเป็นผู้จัดแสดงในงาน “Cosmoprof CBE ASEAN 2020” หรือ CCA 2020 งานจัดแสดงสินค้าเพื่อธุรกิจความงามระดับโลก ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยบริษัทจะจัดแสดงในส่วนของ Vacuum Homogenizer และโฮโมจิไนเซอร์ที่บริษัทออกแบบและผลิตเอง นอกจากนี้ยังจัดแสดงเครื่องจักรอุตสาหกรรม Makeup จากประเทศพาร์ทเนอร์อย่างไต้หวันและเกาหลีใต้ รองรับกับธุรกิจเครื่องสำอาง ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย อีกทั้ง เซลคอน ยังเตรียมเพิ่มกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยี ให้เข้ามามีบทบาทสำหรับการเข้าถึงตลาดในปีหน้า เพื่อให้เป้าหมายของบริษัทบรรลุผลอย่างมีประสิทธิภาพ
“การเข้าร่วมงาน CCA 2020 เป็นทางเลือกที่ดีในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหญ่ในเวลาอันสั้น กล่าวคืองานในครั้งนี้เป็นงานจัดแสดงสินค้าที่ถูกยกระดับไปอีกขั้น ชื่อชั้นของงานจะมีความเป็น International ขึ้น สามารถนำไปอ้างอิงกับงานในระดับโลกได้ และยังช่วยดึงดูดคู่ค้าจากนานาชาติได้ง่ายขึ้น เนื่องจากระบบการจัดการที่มีความเป็นมืออาชีพ รวมไปถึงการจัดการประชาสัมพันธ์-โฆษณาที่เป็นวงกว้าง และงานนี้ยังได้แรงสนับสนุนผู้ประกอบการจากหน่วยงานภาคส่วนต่างๆ อีกด้วย
ในฐานะที่เซลคอนเองก็เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการไทย เราก็อยากฝากให้ลูกค้าเชื่อมั่น และหันมาสนับสนุนผู้ผลิตเครื่องจักรในประเทศมากขึ้น เพราะในตอนนี้คนไทยก็มีความสามารถมากพอ ที่จะผลิตเครื่องจักรที่มีคุณภาพทัดเทียมกับต่างประเทศได้แล้ว การสนับสนุนกันและกันจากทุกฝ่าย จะช่วยให้พวกเราสามารถพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ต่อไปได้ และยังช่วยให้อุตสาหกรรมของไทยสามารถลดต้นทุนการผลิตลงได้มาก ทำให้ประเทศไทยลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติได้อีกด้วย เพราะสุดท้ายแล้วการที่วงการอุตสาหกรรมความงามในประเทศจะเดินหน้าหรือถอยหลัง ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจและการสนับสนุนจากพวกเราคนไทยกันเองด้วย” นายอรินทร์ กล่าวทิ้งท้าย
พบกับเครื่องจักรโฮโมจิไนเซอร์และระบบผสมครบวงจร ของ บริษัท เซลคอน จำกัด ได้พร้อมกันที่งาน “Cosmoprof CBE ASEAN 2020” งานจัดแสดงสินค้าเพื่อธุรกิจความงามระดับโลก ระหว่างวันที่ 14 – 16 ธันวาคม 2563 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัท ได้ที่ http://www.sel-con.com หรือเบอร์โทรศัพท์ 034-406-611