บลจ.กสิกรไทย เดินหน้าเปิดขาย Term Fund Plus ซีรีส์ใหม่ ตอบโจทย์ตรงใจผู้ลงทุนในยุคที่ดอกเบี้ยต่ำ

พุธ ๐๙ กันยายน ๒๐๒๐ ๑๐:๑๕
บลจ.กสิกรไทย เดินหน้าจัดตั้งกองทุน Term Fund Plus ซีรีส์ใหม่ 'กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 2021D (KFF21D)’ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุนในยุคที่ดอกเบี้ยต่ำ เผยตราสารหนี้เอเชียได้รับประโยชน์โดยตรงจากนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลาย และมีผลตอบแทนเมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่น่าสนใจ

นายนาวิน อินทรสมบัติ Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า จากกระแสการตอบรับที่ดีของผู้ลงทุนต่อกองทุน Term Fund Plus ที่ได้สร้างสถิติปิดการขายอย่างรวดเร็วภายในไม่ถึง 1 ชั่วโมง โดยกองทุน Term Fund Plus ที่เปิดขายในช่วงที่ผ่านมาสามารถระดมทุนได้สูงถึง 15,691.45 ล้านบาท (ข้อมูล ณ ต.ค. 62 - ส.ค. 63) ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย เร่งเดินหน้าออกกองทุน Term Fund Plus ซีรีส์ใหม่ เพื่อตอบสนองให้ทันกับความต้องการของผู้ลงทุนในภาวะที่ดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งล่าสุดได้จัดตั้ง กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 2021D (KFF21D) เปิดเสนอขายในระหว่างวันที่ 9-14 กันยายน 2563 โดยมีขนาดกองทุนประมาณ 3,800 ล้านบาท

นายนาวินกล่าวต่อไปว่า กองทุน KFF21D เป็นการบริหารจัดการร่วมกันระหว่างบลจ.กสิกรไทย และ Invesco Hong Kong โดยมอบหมายให้ Invesco Hong Kong รับหน้าที่บริหารเงินลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลกโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย รวมถึง High Yield Bond บางส่วน ผ่านกองทุนหลัก Invesco Asian Bond Fixed Maturity Fund 2021 – III, Class C(USD)-Acc ในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 60% ของพอร์ต ส่วนบลจ.กสิกรไทย จะรับหน้าที่บริหารในส่วนที่เป็นเงินฝากต่างประเทศ ได้แก่ เงินฝาก Qatar National Bank (ประเทศกาตาร์), เงินฝาก PT Bank Rakyat Indonesia (ประเทศอินโดนีเซีย) และเงินฝาก Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน) ในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 40% ของพอร์ต เพื่อกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน

“สำหรับมุมมองการลงทุนในต่างประเทศ ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลาย ทำให้อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ (Yield) มีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ ในขณะที่ตราสารหนี้ที่มีความน่าเชื่อถือระดับที่ลงทุนได้ (Investment Grade) ในภูมิภาคเอเชีย ยังคงได้รับแรงหนุนจากการแสวงหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น (Search for Yield) ของผู้ลงทุน เนื่องจาก กิจกรรมทางเศรษฐกิจของหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียเริ่มฟื้นตัว และบริษัทที่ออกหุ้นกู้เอกชนในเอเชียส่วนใหญ่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ตลอดจนหุ้นกู้เอเชียสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมจากผู้ลงทุน จึงได้รับประโยชน์โดยตรงจากการที่ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงดำเนินนโยบายแบบผ่อนคลายต่อไป และพร้อมอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน โดยระดับราคาหุ้นกู้เอเชียสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ปรับลดลงทำให้มีผลตอบแทนเมื่อเทียบกับความเสี่ยงดูน่าสนใจยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทุนยังต้องติดตามความไม่แน่นอนจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 และข้อพิพาทระหว่างสหรัฐฯกับจีน ซึ่งอาจทำให้ตลาดเข้าสู่โหมด Risk-off ได้อีกครั้ง” นายนาวินกล่าว

นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน KFF21D เหมาะกับผู้ลงทุนที่สามารถถือครองหน่วยลงทุนได้เป็นระยะเวลา 1 ปี และมองเห็นโอกาสจากการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ สำหรับวันที่ 9 กันยายน 2563 ซึ่งเป็นวันเปิดเสนอขายวันแรกจะเริ่มรับคำสั่งซื้อตั้งแต่เวลา 11.00 น.เป็นต้นไป โดยผู้ลงทุนสามารถเริ่มต้นลงทุนได้เพียง 500 บาท ผ่าน App K PLUS, K-My Funds และธนาคารกสิกรไทย ทั้งนี้ เมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น (K-SF) ของบลจ.กสิกรไทย เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจสามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางการลงทุนข้างต้น หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888

ตราสารที่กองทุน KFF21D ลงทุน อันดับเครดิต สัดส่วนการลงทุน

กองทุน Invesco Asian Bond Fixed Maturity Fund 2021 – III, Class C(USD)-Acc - 60.01%

เงินฝาก Qatar National Bank, ประเทศกาตาร์ Aa3/Moody's 13.33%

เงินฝาก PT Bank Rakyat Indonesia, ประเทศอินโดนีเซีย Baa2/Moody's 13.33%

เงินฝาก Bank of China, สาธารณรัฐประชาชนจีน A1/Moody's 13.33%

รวม 100.00%

ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน / หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่ประเมินไว้ / กองทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ทั้งนี้ เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนของกองทุน KFF21D ในช่วงเวลา 1 ปี ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมากได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO