ธุรกรรมดังกล่าวดำเนินการบน Contour ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มสำหรับการติดต่อสื่อสารและส่งเอกสารอิเล็กทรอนิกส์สำหรับธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน โดยเป็นการทำธุรกรรมการส่งพลาสติกมูลค่า 50,000 เหรียญสหรัฐจากบริษัทเอสซีจี พลาสติกส์ จำกัด ประเทศไทย ไปยังบริษัท Opec Plastic Joint Stock Company ประเทศเวียดนาม เมื่อเทียบกับการทำธุรกรรมแบบเดิมที่มีกระบวนการใช้เอกสารเป็นจำนวนมากและใช้เวลาในการดำเนินการ การนำระบบดิจิทัลมาใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลตั้งแต่ต้นจนจบและปรับปรุงกระบวนการออก L/C และ L/C Confirmation ให้มีความคล่องตัวยิ่งขึ้น ส่งผลให้ธุรกรรมนี้ประสบความสำเร็จในการลดเวลาที่ต้องใช้ในการดำเนินงานได้อย่างมีนัยสำคัญจากเดิมที่ต้องใช้เวลามากถึงห้าวัน เหลือเพียงเจ็ดชั่วโมง
ธุรกรรมครั้งนี้เป็นการนำ Distributed Ledger Technology มาใช้สำหรับ Credit Guarantee เป็นครั้งแรกของเอดีบี และเป็นการทำธุรกรรม sell-down ความเสี่ยงครั้งแรกบน Contour ธุรกรรมครั้งแรกนี้ได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพความรวดเร็วในการ sell-down ความเสี่ยงของธุรกรรม Trade ภายใต้ L/C ซึ่งจะทำให้ทั้งธนาคาร ผู้ส่งออกนำเข้า สามารถเข้ามาใช้วิวัฒนาการเทคโนโลยีนี้ได้อย่างแพร่หลายมากขึ้น
คาร์ล เว็กเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Contour กล่าวว่า “ฟังก์ชั่นใหม่ในการค้ำประกันนี้ทำให้มีการเข้าถึงและนำไปสู่ธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศแบบดิจิทัลได้แพร่หลายมากขึ้น ความร่วมมือในการพัฒนาครั้งนี้ของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดและเอดีบี รวมทั้งธนาคารและผู้ประกอบการอื่นๆ จะทำให้เรามีมาตรฐานสากลสำหรับการค้าต่างประเทศ ทำให้การค้าต่างประเทศมีขั้นตอนการดำเนินงานที่ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น Contour มุ่งมั่นที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มร่วมกับทุกภาคส่วนไปสู่การใช้ใน Production Phase ในไตรมาส 4 ของปีนี้”
“การระบาดของไวรัสโคโรน่าได้แสดงให้เห็นว่า มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการยกระดับการดำเนินงานธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศเป็นระบบดิจิทัลให้ได้อย่างรวดเร็วเพื่อทำให้การค้าทั่วโลกและระบบห่วงโซ่อุปทานดำเนินการได้อย่างไม่ติดขัดและเติบโตได้อย่างเข้มแข็ง” สตีฟ เบ็ค หัวหน้าแผนก Trade & Supply Chain Finance เอดีบี กล่าว “นวัตกรรมนี้ทำให้ธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงและข้อจำกัดในการเข้าถึงสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในภูมิภาคเอเชียที่กำลังพัฒนา”
นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การเงินและการลงทุน เอสซีจี กล่าวว่า “เอสซีจีให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความสามารถทางการแข่งขันให้องค์กร และคู่ธุรกิจ ดังนั้น การที่ได้ร่วมกับธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ทำธุรกรรมผ่าน Contour ทำให้กระบวนการทำ LC มีประสิทธิภาพ สามารถตรวจสอบรายการได้รวดเร็วและถูกต้องแต่ยังคงไว้ซึ่งความปลอดภัย อีกทั้ง ยังช่วยในการบริหารทรัพยากรด้านต่าง ๆ อาทิ คน ต้นทุน และเวลาของเอสซีจีให้มีประสิทธิภาพสูงสุด”
พลากร หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งและเคียงข้างลูกค้าของเราจนประสบความสำเร็จในธุรกรรม Contour นี้เป็นครั้งแรกอีกครั้ง เรามุ่งทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อส่งมอบโซลูชั่นดิจิทัลนี้ให้กับลูกค้าอื่นๆ ในประเทศไทย เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าข้ามพรมแดนภายในภูมิภาคอาเซียน”
เกี่ยวกับธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด
เราเป็นกลุ่มธนาคารสากลชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจใน 60 ตลาดที่มีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว และให้บริการลูกค้าในอีก 85 ตลาด โดยมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนการค้า การลงทุนและการสร้างความมั่งคั่ง หลักการที่สืบทอดมาและค่านิยมองค์กรของเราสะท้อนอยู่ในพันธกิจของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดที่ว่า Here for good ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดจำกัด มหาชน ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในลอนดอนและฮ่องกง
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการอ่านบทความจากทีมนักเศรษฐศาสตร์ โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.sc.com และติดตามสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดได้ทาง Twitter, LinkedIn และ Facebook