ตามที่คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับ กับผู้กระทำความผิด 3 รายก่อนหน้านี้ โดยให้ชำระเงินค่าปรับทางแพ่งและชดใช้ผลประโยชน์ที่พึงได้รับจากการกระทำความผิด* เนื่องจากผู้กระทำความผิดทั้ง 3 รายไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด จึงพิจารณาได้ว่าผู้กระทำความผิดดังกล่าวไม่ยินยอมที่จะระงับคดีในชั้น ก.ล.ต. ดังนั้น ก.ล.ต. จึงมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีผู้กระทำความผิดทั้งหมดต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,225,071.66 บาท โดยให้นายเอกรัตน์ชำระค่าปรับทางแพ่งและชดใช้ผลประโยชน์ที่พึงได้รับ จากการกระทำความผิดรวม 558,405 บาท และให้นางอุสุมาและนางสาวธิติรัตน์ชำระค่าปรับทางแพ่งรายละ 333,333.33 บาท
อนึ่ง ก.ล.ต. ได้รายงานการดำเนินการดังกล่าวต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เนื่องจากความผิดเกี่ยวกับการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 เพื่อพิจารณาดำเนินการต่ออีกด้วย