Igloo แพลตฟอร์มอินชัวร์เทคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งก่อนหน้านี้รู้จักกันในชื่อ “Axinan” ร่วมมือกับบริษัท เดลิเวอรี่ ฮีโร่ (ฟู้ดแพนด้า) ประเทศไทย จำกัด ส่งมอบบริการประกันภัย “PandaCare” ให้กับพาร์ตเนอร์ผู้ส่งอาหารของฟู้ดแพนด้าที่มีอยู่ทั่วประเทศไทย ซึ่งเป็นโครงการคุ้มครองประกันภัยที่ประกอบด้วยประกันภัยรถมอเตอร์ไซด์จาก บริษัท เอ็มเอสไอจี ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลจาก บริษัท ซิกน่า ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ วงเงินชดเชยรายได้รายวันจากการเข้าพักในโรงพยาบาล จากบริษัท ทูนประกันภัย จำกัด (มหาชน)
Igloo เป็นแพลตฟอร์มอินชัวร์เทคที่อำนวยความสะดวกสำหรับบริการประกันแบบครบวงจรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ Igloo นำเทคโนโลยีบิ๊กดาต้า (Big Data) มาใช้งานในการประเมินความเสี่ยงแบบผันแปรตามบุคคล (Dynamic Risk Assessment) และการดำเนินการเคลมประกันได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้พาร์ตเนอร์ของ Igloo มีเครือข่ายการบริการที่กว้างขวางขึ้น และผู้บริโภคสามารถเลือกใช้โซลูชันประกันภัยที่เหมาะกับกลุ่มของตนเองได้ นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ในปี 2559 Igloo มีฐานลูกค้ามากกว่า 15 ล้านรายในสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่าจำนวนการส่งอาหารในไทยในปีนี้จะเติบโตสูงถึง 84 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้คนไม่อยากไปร้านอาหาร และหันมาใช้บริการสั่งอาหารมากขึ้น ตัวเลขการสั่งอาหารที่เพิ่มขึ้นทำให้ผู้ส่งอาหารอยู่บนท้องถนนมากขึ้นและมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากการให้บริการในแต่ละวัน จากความร่วมมือดังกล่าว Igloo จะช่วยให้ความคุ้มครองแก่พันธมิตรผู้ส่งอาหาร เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย
ประเทศไทยติดอันดับ 25 ประเทศแรกของโลกที่มีช่องว่างในตลาดประกันภัยที่สูง ในปี 2561 ประเทศไทยมีสัดส่วนของผู้มีประกันภัยเพียง 1.7 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรทั้งหมด และมีช่องว่างของตลาดประกันภัยคิดเป็น 0.3 เปอร์เซ็นต์ (1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 45,000 ล้านบาท) ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ทั้งนี้ Igloo เล็งเห็นโอกาสในการขยายตลาดไทย จึงมุ่งเน้นนโยบายใน 2 เรื่องหลัก เรื่องแรก คือ การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้บริโภคผ่านแพลตฟอร์มของบริษัท และสองคือ นำเสนอเบี้ยประกันที่ราคาสมเหตุสมผล เพื่อให้บริการประกันภัยเข้าถึงและแพร่หลายมากขึ้นในประเทศไทย
นางสาวจันทร์จรัส จันทรกานต์ หรือ คุณออย ผู้จัดการประจำประเทศไทย Igloo Thailand กล่าวว่า “Igloo มุ่งเน้นในการสร้างประสบการณ์การใช้บริการประกันภัยให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันที่เน้นการใช้งานบนดิจิทัล โดยเฉพาะในไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันมากขึ้น แพลตฟอร์มของ Igloo สามารถให้บริการลูกค้าได้แบบครบวงจร นับตั้งแต่การเลือกซื้อประกันภัยที่เหมาะสม ประเมินค่าเบี้ยประกันสำหรับแต่ละบุคคล ไปจนกระทั่งถึงการยื่นเคลมประกันผ่านแพลตฟอร์ม ทำให้เราสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจ และสะดวกสบายให้กับลูกค้าได้ ทั้งนี้ เพราะ Igloo พัฒนาโซลูชั่นและแพลตฟอร์มโดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก”
นอกเหนือจากนี้แล้ว นางสาวจันทร์จรัส กล่าวเสริมว่า “สำหรับฟู้ดแพนด้า Igloo เข้าใจความต้องการและความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในแต่ละวันของผู้ส่งอาหาร จึงได้ออกแบบประกันภัยที่เหมาะสมและพัฒนาแพลตฟอร์มบริการประกันภัยแบบครบวงจร ใช้งานง่าย นับตั้งแต่การสมัคร การแจ้งเลขกรมธรรม์ รวมถึงช่วยอำนวยความสะดวกด้านการเคลม โดยส่งมอบบริการประกันภัยรถมอเตอร์ไซต์ ประกันอุบัติเหตุ และประกันชดเชยรายได้ในช่วงระหว่างการรักษาตัวในโรงพยาบาลจากอุบัติเหตุ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ส่งอาหารมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดด้านการประกันภัย”
นอกจากนี้ เทคโนโลยีของ Igloo ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและลดต้นทุนของบริษัทประกันภัย ซึ่งทำให้บริษัทประกันภัยที่เป็นพาร์ตเนอร์ของ Igloo สามารถนำเสนอเบี้ยประกันที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายขึ้นและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางการตลาด
นายกฤตย์ กิตติรัตนา หัวหน้าฝ่ายโลจิสติกส์ บริษัท เดลิเวอรี่ ฮี่โร่ (ฟู้ดแพนด้า) ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “การต่อสู้กับการระบาดของโรคต้องอาศัยการทำงานเป็นทีมและการทำงานร่วมกันของคนในอุตสาหกรรม เราพบว่า Igloo เป็นพันธมิตรที่นำเสนอบริการด้านการประกันภัยได้อย่างครบวงจร ซึ่งตรงกับความต้องการของเราในการให้คำมั่นสัญญากับพาร์ตเนอร์ผู้จัดส่งอาหารนับพันคนในการสร้างความปลอดภัยในการทำงานให้กับพวกเขา ฟู้ดแพนด้าให้ความสำคัญกับ ความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของพันธมิตรผู้จัดส่งอาหาร เพราะพวกเขามีบทบาทสำคัญในการบริการจัดส่งอาหารและของชำถึงหน้าประตูบ้านของทุกคนในช่วงการแพร่ระบาดนี้”
Igloo ได้รวบรวมผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมจากบริษัทประกันที่มีความแตกต่างกันมาไว้บนแพลตฟอร์มเดียว โดยเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และเพื่อให้บริษัทพันธมิตรมีบริการที่หลากหลาย ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 Igloo จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในประเทศไทย เช่น ประกันโรคร้ายแรง ประกันบ้านและทรัพย์สิน ประกันธุรกิจ ประกันความปลอดภัยอินเทอร์เน็ต ประกันกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-wallet) และการประกันภัยสัตว์เลี้ยง ปัจจุบัน Igloo อยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศเพื่อเปิดตัวประกันภัยป้องกันหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวเป็นสิทธิบัตรของ Igloo รวมถึงมีแผนร่วมมือกับบริษัทประกันภัยชั้นนำในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันรถยนต์ที่จะพลิกโฉมวงการ
Igloo มีแผนขยายธุรกิจในประเทศไทยและให้บริการในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยจะร่วมมือกับพันธมิตรอื่น ๆ เพื่อจัดหาประกันภัยราคาที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน นอกจากนี้ Igloo มีแผนเพิ่มทีมงานในประเทศไทยเพื่อรองรับกับการขยายตัวในอนาคต
นับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาดในภูมิภาค Igloo ได้ทำงานร่วมกับบริษัทต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาโดยตลอดในการนำเสนอประกันภัยราคาที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน เพื่อช่วยเหลือคนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตนี้ให้มากที่สุด นับจากวันเริ่มต้นจนถึงขณะนี้ อินชัวร์เทคอย่าง Igloo ได้ร่วมมือกับกลุ่มอีคอมเมิร์ซและสถาบันการเงินชั้นนำในภูมิภาค เช่น Union Bank และ Akulaku ในฟิลิปปินส์ Ciputra Life, Bhinneka และ Blibli.com ในอินโดนีเซีย เพื่อนำเสนอบริการประกันภัยรายย่อย Igloo กำลังเสริมสร้างความแข็งแกร่งในภูมิภาคและขยายการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการระดมทุนรอบต่อไป
Igloo ก่อตั้งโดย นายเหว่ย ซู ในเดือนมิถุนายน 2559 เพื่อจัดหาประกันที่ราคาเข้าถึงได้ให้กับทุกคนรองรับลูกค้าทุกกลุ่ม เพื่อให้ทุกคนได้รับความคุ้มครอง รวมถึงการคุ้มครองทรัพย์สินอื่นๆ ด้วยข้อเสนอประกันภัยที่เลือกสรรได้ตามความต้องการของแต่ละคน ล่าสุดในเดือนเมษายนที่ผ่านมา Igloo ระดมทุนรอบซีรี่ส์ A + ทำให้ปัจจุบันมีการระดมทุนโดยรวมทั้งหมด 16 ล้านเหรียญสหรัฐ Igloo ถือครองเทคโนโลยีที่ดีที่สุดและสิทธิบัตรมากมาย รวมถึงสิทธิบัตรเทคโนโลยีการประเมินหน้าจอซึ่งเป็นสิทธิบัตรของ Igloo