นิโคโล กาลันเต้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เป็นเวลาหลายทศวรรษที่เซ็นทรัลและโรบินสันเป็นผู้นำธุรกิจห้างสรรพสินค้า และไลฟ์สไตล์มอลล์ของไทยในการนำเสนอสินค้า บริการและนวัตกรรมใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดห้างสรรพสินค้าแห่งแรก ภายใต้แบรนด์เซ็นทรัล หรือการเปิดไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งแรก ภายใต้แบรนด์โรบินสัน และเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่การเป็นรีเทลแห่งอนาคต CRC จึงตัดสินใจทางยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญ ในการผนึกกำลังเซ็นทรัลและโรบินสันให้เกิดความคล่องตัวในการขับเคลื่อนองค์กร รวมถึงเสริมความแข็งแกร่งด้านแพลตฟอร์มออมนิแชนแนลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อจุดประสงค์หลักในการพัฒนาสู่การเป็นห้างสรรพสินค้าออมนิแชนแนลแห่งแรกในไทย
“การผนึกกำลังกันระหว่างเซ็นทรัลและโรบินสันในครั้งนี้ คือการนำจุดแข็งของทั้งสองแบรนด์มาต่อยอดเครือข่ายห้างสรรพสินค้าให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ และเสริมแกร่งแพลตฟอร์มออมนิแชนแนลให้สมบูรณ์แบบ ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้า และบริการที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ส่วนบุคคล อาทิเช่น บริการ Click & Collect ที่ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และมารับได้ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล และโรบินสันทั้ง 74 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งยุทธศาสตร์ในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มความยืดหยุ่นให้องค์กรในการเตรียมความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ตามที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยที่เรายังคงมุ่งมั่นเดินหน้าขยายสาขาของทั้งเซ็นทรัล และโรบินสันต่อไป เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าชาวไทยมาอย่างยาวนาน” นิโคโล กล่าว
ปัจจุบัน เซ็นทรัลและโรบินสันครองอันดับที่ 1 และ 2 ในธุรกิจค้าปลีกไลฟ์สไตล์ของประเทศไทย ครอบคลุมสินค้ากลุ่มแฟชั่น ความงาม และของใช้ในบ้าน เป็นต้น มีสาขาทั้งหมดรวม 74 แห่งทั่วประเทศ และในแต่ละปีเซ็นทรัล และโรบินสัน มีลูกค้าที่เข้ามา
ใช้บริการมากกว่า 5 ล้านราย ทำให้เรายังเล็งเห็นศักยภาพของธุรกิจ และเดินหน้าแผนการขยายสาขาใหม่ 2-5 สาขาต่อปี อีกทั้งยุทธศาสตร์ในครั้งนี้ยังเป็นการรวมทีมงานระดับแนวหน้าของค้าปลีก ร่วมขับเคลื่อนธุรกิจ พร้อมพัฒนาทักษะพนักงานให้สามารถสร้างประสบการณ์ออมนิแชแนลที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าอย่างครบวงจร
“การทรานส์ฟอร์มของเราในครั้งนี้ ถือเป็นการตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาความรวดเร็ว ความสะดวกสบาย รวมถึงการบริการที่ทันท่วงทีจากหน้าร้าน ทำให้แพลตฟอร์มออมนิแชนแนลเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เห็นได้จากความสำเร็จของแคมเปญ 9.9 Central Retail Double Mega Sale (9.9 เซ็นทรัล รีเทล ดับเบิ้ล เมกา เซลล์) ที่ผ่านมา ด้วยตัวเลขยอดขายที่เพิ่มขึ้นกว่า 200% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และด้วยยุทธศาสตร์ใหม่นี้จะทำให้เราครองความเป็นที่หนึ่งทั้งออฟไลน์และออนไลน์ภายในปี 2565 และนำพาเซ็นทรัล รีเทล ให้เติบโตไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืน พร้อมทั้งยกระดับธุรกิจค้าปลีกของไทย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่คนไทยทุกคน” นิโคโล กล่าวปิดท้าย
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือเซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย และเป็นบริษัทเรือธงด้านค้าปลีก ซึ่งเป็นรากฐานของกลุ่มเซ็นทรัล มีเครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีกที่สำคัญจำนวน 3,831 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563) นำเสนอสินค้าหลากหลายประเภท (Multi-Category) ผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ในรูปแบบ Omnichannel โดยครอบคลุมกลุ่มแฟชั่น ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์, ซูเปอร์สปอร์ต, Central Marketing Group (CMG) และรีนาเชนเต (Rinascente) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ได้แก่ ไทวัสดุ, บ้านแอนด์บียอนด์, เพาเวอร์บาย, เหงียนคิม และกลุ่มฟู้ด ได้แก่ ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ เดลี่, ท็อปส์ พลาซ่า, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, แฟมิลี่มาร์ท, บิ๊กซี/โก! และลานชี มาร์ท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 เซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทยที่มีห้างสรรพสินค้า ร้านค้า รวมกัน 1,948 แห่ง ใน 54 จังหวัด พร้อมทั้งยังดำเนินธุรกิจค้าปลีกในประเทศอิตาลี และประเทศเวียดนาม รวมกัน 136 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563)