ศาสตราจารย์ นฤมล กล่าวว่า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน ได้หารือกับ บสย. และจะมีการลงนามความร่วมมือขึ้นในเร็วๆ นี้ โดยที่ผ่านมา กพร.ได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีทั้งแรงงานในระบบและนอกระบบ ด้วยการเพิ่มทักษะฝีมือให้มีความรู้และทักษะฝีมือ ให้สามารถนำไปประกอบอาชีพ นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบอาชีพอิสระและกลุ่ม SMEs บสย.จะเข้ามาให้ความช่วยเหลือผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมและได้รับวุฒิบัตรจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนตามที่บสย.ได้จัดทำโครงการไว้ อีกทั้ง กพร.มีหน่วยงานกระจายอยู่ในภูมิภาคทั้ง 77 จังหวัด สามารถให้การช่วยเหลือได้ตั้งแต่กลุ่มรากหญ้า ปัญหาส่วนใหญ่เมื่อผ่านการฝึกอบรมแล้ว ขาดเงินทุนเพื่อประกอบกิจการ ซึ่งบสย.จะเข้ามาช่วยเหลือและแก้ปัญหาในเรื่องนี้ได้ และกระทรวงการคลังจะทำหน้าที่ในการเชื่อมโยงแรงงานที่ผ่านการพัฒนาทักษะฝีมือดังกล่าว ให้มีโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนมากยิ่งขึ้นด้วย เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการว่างงาน ซึ่งเป็นเรื่องต้องรีบดำเนินการแก้ไขท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศ
สำหรับรูปแบบการค้ำประกันสินเชื่อที่ บสย. ทำหน้าที่ค้ำประกันให้กับ SMEs เป็นกลไกที่สามารถขยายผลการให้สินเชื่อได้มากกว่างบประมาณที่รัฐใช้ไปหลายเท่า ซึ่งนอกจากจะมีโครงการ Soft Loan พลัสแล้ว ยังมีโครงการค้ำประกันที่สำคัญ ได้แก่ บสย.ไทยชนะ ที่ถือว่าเป็นมาตรการสำคัญที่ บสย. ดำเนินการค้ำประกันด้วยตนเอง เพื่อเพิ่มความช่วยเหลือไปครอบคลุมฐานผู้ประกอบการต่างๆ สามารถตอบโจทย์การแก้ปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี นอกจากการช่วยเหลือให้ SMEs ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนแล้ว ยังได้จัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาทางการเงินกับ SMEs ซึ่งเป็นการให้ความรู้ ช่วยแก้ไขปัญหาทางการเงินโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ทำให้ SMEs ผู้ประกอบการอาชีพอิสระ คนตกงาน ได้มีโอกาสรับการค้ำประกันและได้รับสินเชื่อในที่สุด