ถอดแนวคิด คุณเอกภาพ ลำพูน เจ้าของร้านดอกไม้แบรนด์ GETTAVA กับเส้นทางสู่ร้านดอกไม้ขวัญใจคนดัง ที่มาแบ่งปันวิธีคิดการเป็นเจ้าของธุรกิจว่า ความรู้เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับคนที่ยังไม่เคยทำธุรกิจมาก่อน ต้องมีการประเมินตัวเองว่า มีความรู้ในอาชีพที่จะทำแค่ไหน เช่น ถ้าอยากเปิดร้านดอกไม้ ก็ต้องวิเคราะห์ศักยภาพตัวเองก่อนว่ามีความรู้ในการจัดดอกไม้ขั้นไหน พร้อมที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจหรือยัง
เมื่อสามารถวิเคราะห์ และประเมินตัวเองได้แล้ว ต่อมาก็ต้องทำความรู้จักกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ด้วยการสำรวจตลาด ค้นหาความต้องการของลูกค้า โฟกัสให้ได้ว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายคือใคร เพื่อจะพัฒนาสินค้าหรือบริการให้ตรงตามความต้องการ ที่สำคัญคือ อย่าลืมสำรวจคู่แข่งด้วย เพราะคู่แข่งเป็นแหล่งความรู้ที่ดี ทำให้สามารถประเมินจุดอ่อนจุดแข็งของสินค้าหรือบริการของเรา เพื่อนำมาพัฒนาคุณภาพให้สูงขึ้น จนถึงจุดที่ไม่มีใครสามารถมาแทนเราได้ แล้วคู่แข่งก็จะหายไปเอง
“จุดแข็งของร้านดอกไม้ GETTAVA คือนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ยกตัวอย่าง ลูกค้าเดินเข้ามาในร้าน อยากได้กุหลาบ 10 ดอก หรือลิลลี่ 1 ดอก ช่างจัดดอกไม้ที่อื่นอาจจัดตามที่ลูกค้าบอก แต่ GETTAVA จะไม่ทำแบบนั้น เราสร้างสรรค์ผลงานเองเนื่องจากเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ และสื่อให้ลูกค้ารู้ว่าสิ่งที่เราจะทำให้เขาเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้นลูกค้าควรปล่อยให้เราจัดการ เช่น ลูกค้าสั่งดอกไม้ไปให้แฟน เราต้องคิดว่า จะจัดดอกไม้อย่างไรให้แฟนเขาประทับใจมากที่สุด นี่คือธุรกิจดอกไม้ซึ่งเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง”
ขณะที่ 'ดอกไม้’ คือสินค้าที่ GETTAVA ส่งมอบให้แก่ลูกค้า ซึ่งโฟกัสกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูง ดังนั้นจึงต้องมีความพิเศษมาก ต้องทำให้ลูกค้าหรือผู้รับ รู้สึกถึงคุณค่าของสินค้าเรา การเตรียมดอกไม้จึงต้องคำนึงถึงการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพเป็นหลัก รู้แหล่งที่มา ดอกไม้ต้องสดใหม่ การทำธุรกิจเกี่ยวกับของสดเป็นเรื่องท้าทายอย่างมาก ถ้าขายไม่ได้ ดอกไม้ก็จะเหี่ยว จึงต้องมีความรู้ในการทำให้ดอกไม้เหี่ยวช้าลงโดยไม่เป็นอันตราย รวมถึงการบริหารจัดการระยะเวลาการจัดส่งดอกไม้เข้าร้านอย่างรอบคอบ
คุณเอกภาพ กล่าวต่อว่า ในช่วงเริ่มต้นเน้นการตลาดแบบปากต่อปาก หรือ Sleeper Hit ดังแบบเงียบๆ ในกลุ่มลูกค้าที่เคยใช้บริการแล้วบอกต่อ เพราะส่วนตัวไม่เชื่อมั่นเรื่องการโฆษณาให้คนเห็นแล้วมาซื้อเยอะๆ เพราะถ้าสินค้าหรือบริการไม่มีคุณภาพ ลูกค้าก็จะมาซื้อแค่ครั้งเดียวแล้วไม่มาอีกเลย แต่การตลาดแบบปากต่อปาก คือการบอกต่อว่าสินค้าเราดี มีคุณภาพ ลูกค้าก็จะกลับมาซื้อสินค้าของเราอีก แต่สิ่งเหล่านี้ต้องค่อยๆ ทำ รักษามาตรฐานไปเรื่อยๆ และไม่ควรจะพลาดแม้แต่ครั้งเดียว เพราะอาจเสียลูกค้ารายนั้นไปตลอดกาล
บริหารจัดการงาน–คน ผสานทั้งศาสตร์และศิลป์
เงินลงทุน เงินหนุนเวียน และเงินทุนสำรอง เป็นสามส่วนที่สำคัญมากสำหรับการบริหารจัดการร้านดอกไม้ให้อยู่ได้ ซึ่งแต่ละเดือนมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ทั้งในส่วนของวัตถุดิบและค่าแรงงาน นอกจากนี้การทำแผนธุรกิจก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะทำให้เห็นภาพธุรกิจได้อย่างชัดเจนทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
ขณะเดียวกัน เจ้าของธุรกิจยังต้องมีความชำนาญในการจัดการดอกไม้ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ คือตั้งแต่การสั่งซื้อดอกไม้จากแหล่งปลูกต่างๆ การคัดสรรดอกไม้ที่มีคุณภาพเพื่อสร้างจุดขายให้กับสินค้า สร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้า ก่อนส่งต่อถึงผู้รับ ซึ่งการบริหารจัดการที่ดี จะทำให้กระบวนการตั้งแต่ต้นทางจนถึงขั้นตอนสุดท้ายไม่เกิดข้อผิดพลาด ดอกไม้ถึงมือผู้รับแล้วเกิดความประทับใจสูงสุด
ในส่วนของการบริหารบุคลากร คุณเอกภาพ ใช้วิธีสอนด้วยการทำตัวให้เป็นแบบอย่าง คือทำให้ดูว่างานทุกอย่างจะต้องทำอย่างไร เพราะเอกลักษณ์ของการจัดดอกไม้มาจากตัวตนของเขาเอง ดังนั้นร้านดอกไม้แบรนด์ GETTAVA จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่มีใครเลียนแบบได้ และก่อนที่ดอกไม้จะถูกส่งออกไปต้องถูกตรวจด้วยตัวเองทุกครั้ง เหนือสิ่งอื่นใด ต้องแสดงให้ลูกน้องเห็นว่า เราสามารถทำงานทุกอย่างได้แม้ไม่มีพวกเค้าเลยก็ตาม เพราะแม้ลูกน้องในร้านจะเป็นฟันเฟืองสำคัญ แต่ถ้าวันหนึ่งเค้าลาออกไป เราก็ยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปหรือหาคนใหม่มาแทนได้ นี่คือการบริหารจัดการงานในแบบธุรกิจศิลปะ
อีกสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจ คือเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับภาษีธุรกิจ การจดทะเบียนการค้า รวมไปถึงกฎหมายแรงงาน สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ของลูกจ้าง เรื่องเหล่านี้ต่างก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องศึกษา
คุณเอกภาพ เน้นย้ำว่า “การเป็นเจ้าของธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเราทำไม่ได้ อยากจะให้ทุกคนมีกำลังใจ และศึกษาข้อมูลต่างๆ อย่างที่ผมได้กล่าวไว้ข้างต้น ลองสำรวจตัวเองว่า มีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน และขอให้ทุกคนโชคดีกับการเป็นเจ้าของธุรกิจ”