นางสาวปพิตชญา สุวรรณดี กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเมกาบางนา เปิดเผยว่า “เมกาบางนามองว่าสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยมีแนวโน้มคลี่คลายไปในทางที่ดี รวมทั้งเศรษฐกิจก็เริ่มกำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จากเหตุการณ์นี้ เราจะเห็นความร่วมมือระหว่างศูนย์การค้ากับผู้เช่าได้ชัดเจนขึ้น ทั้งนี้ เพื่อร่วมมือกันผลักดันธุรกิจของทั้งสองฝ่ายให้ดำเนินไปได้ ผู้เช่าก็มีการจัดโปรโมชั่นหรือกิจกรรมพิเศษเพื่อกระตุ้นการซื้อของลูกค้า บางรายก็ทำ E-commerce ควบคู่ไปกับการขายหน้าร้าน และในส่วนของศูนย์การค้าฯ เอง ในฐานะผู้ดูแลและพัฒนาพื้นที่ ก็ได้ดำเนินการเรื่องความปลอดภัยตามมาตรการการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) การปรับปรุงพื้นที่บางส่วน เพื่อความสะดวกสบายและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ รวมถึงการทำการตลาดเพื่อสนับสนุนธุรกิจของผู้เช่า จนทำให้ตอนนี้ลูกค้ากลับมาใช้บริการที่เมกาบางนาแล้วเกือบจะ 100% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้าที่เปิดให้บริการได้เฉพาะร้านค้าที่จำเป็น ตามนโยบายของภาครัฐ”
“ในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4ของปี 2563 นี้ เมกาบางนา ได้เน้นกลยุทธ์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้วยความหลากหลายของร้านค้า (Tenant Mix) เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบถ้วนมากยิ่งขึ้น ทั้งร้านค้ากลุ่มแฟชั่น ร้านอาหารและไลฟ์สไตล์ ซึ่งได้คัดสรรกลุ่มผู้เช่าที่มีศักยภาพและเป็น Magnet สำคัญในการดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ และด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพของศูนย์ฯ และฐานลูกค้าของเมกาบางนาเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง สร้างยอดขายให้กับร้านค้าได้จริง ทำให้ได้รับการตอบรับจากร้านค้าต่างๆ อย่างดี โดยเฉพาะร้าน Pomelo ก็เป็นแบรนด์ที่ลูกค้าชื่นชอบและให้การตอบรับดีมาโดยตลอด จนทำให้ Pomelo ตัดสินใจขยายพื้นที่ร้านเพื่อให้สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น ด้วยขนาดพื้นที่ 700 ตร.ม. ทำให้ Pomelo สาขาเมกาบางนากลายเป็นแฟล็กชิปสโตร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย” นางสาวปพิตชญา กล่าวเพิ่มเติม
Anders Heikenfeldt ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายค้าปลีก ของ Pomelo กล่าวว่า “ที่ Pomelo เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าของเราและขยายขอบเขตของการค้าปลีกแบบเดิมๆ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เปิดร้าน Pomelo ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่เมกาบางนา และนำเสนอประสบการณ์ Omnichannel ที่ไม่เหมือนใครให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น”
นอกจากนี้ เมกาบางนายังมีผู้เช่ารายใหม่ๆ ที่น่าสนใจ ทั้งร้านอาหาร ร้านขนม คาเฟ่ ชื่อดัง ที่ต่างทยอยเปิดให้บริการที่เมกาบางนา อาทิ Casa Lapin Specialty Coffee ร้านกาแฟแนวไลฟ์สไตล์ที่เสิร์ฟกาแฟคุณภาพดี เหมาะกับทุกคน และสามารถดื่มได้ทุกวัน Mikazuki ร้านครัวซองต์สูตรลับที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งเน้นการรังสรรค์ปรุงแต่งด้วยวิธีการทำแบบสไตล์ญี่ปุ่นมีให้เลือกว่า 20 ไส้ The Chocolate Factory ร้านช็อกโกแลตที่จะมอบประสบการณ์ทางด้านรสชาติที่หลากหลายและสมบูรณ์แบบ นำทีม Chocolatier โดย Chef Eric Perez เชฟชาวฝรั่งเศส ผู้เชี่ยวชาญและได้รับรางวัลเชฟขนมหวาน มือวางอันดับ 2 ของโลก GAGA ร้านชานมไข่มุก ไร้ไขมันทรานส์ และ Tonkatsu Wako ทงคัตซึที่ได้รับความไว้วางใจและครองใจลูกค้ามานานกว่า 60 ปี ต้นตำรับจากญี่ปุ่น ร้านดังแบรนด์โปรดที่คนไทยชื่นชอบและรอคอย รวมไปถึงอีกหลากหลายร้านที่เตรียมมาสร้างสีสันให้กับลูกค้าได้ช็อป ชิม ชิลอย่างครบรส
“การปรับเปลี่ยนร้านค้าภายในศูนย์ฯ ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญในการยึดครองใจลูกค้า (Top of Mind) เพราะการเลือกร้านค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการและตรงใจลูกค้านับเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด และยิ่งเป็นแบรนด์ที่มีฐานลูกค้า หรือแฟนคลับของแบรนด์เองอยู่แล้ว ยิ่งมาช่วยเสริมให้เมกาบางนาแข็งแกร่ง และน่าสนใจขึ้น และนี้คืออีกปัจจัยที่ทำให้เมกาบางนาครองใจลูกค้าในย่านนี้มาจนถึงทุกวันนี้” นางสาวปพิตชญา กล่าวสรุป