Huawei มุ่งมั่นสร้าง Intelligent Twins ระดับอุตสาหกรรมด้วยการเชื่อมต่ออัจฉริยะ

ศุกร์ ๒๕ กันยายน ๒๐๒๐ ๑๐:๕๘
ในงาน HUAWEI CONNECT 2020 หัวเว่ยได้ประกาศเปิดตัวโซลูชันเชื่อมต่ออัจฉริยะในทุกสถานการณ์สำหรับการใช้งานด้านเทคโนโลยี เครือข่าย และอุตสาหกรรม โซลูชันเหล่านี้จะช่วยหัวเว่ยมอบการเชื่อมต่ออัจฉริยะที่โดดเด่น ด้วยเครือข่ายความเร็วสูงที่ครอบคลุมทุกหนทุกแห่ง ประสบการณ์การใช้งานตามเป้าหมายที่กำหนด และระบบอัตโนมัติที่สูงขึ้นอีกขั้น เพื่อสร้าง Intelligent Twins ระดับอุตสาหกรรม นอกจากนี้ หัวเว่ยยังปล่อยโซลูชันเครือข่ายขับขี่อัตโนมัติ (ADN) สำหรับองค์กร เพื่อขับเคลื่อนเครือข่ายองค์กรสู่ยุค ADN และเร่งยกระดับระบบอัจฉริยะของอุตสาหกรรมต่าง ๆ

เดวิด หวัง ผู้อำนวยการบริหารของหัวเว่ย และประธานบอร์ดประเมินการลงทุน ได้กล่าวในหัวข้อ “การสร้าง Intelligent Twins ระดับอุตสาหกรรมด้วยการเชื่อมต่ออัจฉริยะ” โดยระบุว่าการเชื่อมต่อคือผลิตภาพ ไม่ใช่แค่พลังประมวลผลเท่านั้น แต่การเชื่อมต่อที่แข็งแกร่งจะทำให้ Intelligent Twins ฉลาดขึ้น

หัวเว่ยเชื่อว่าเครือข่ายความเร็วสูงที่ครอบคลุมทุกหนทุกแห่ง ประสบการณ์ใช้งานที่เป็นไปตามที่กำหนด และระบบอัตโนมัติขั้นสูง จะเป็นคุณสมบัติสำคัญ 3 ประการของการเชื่อมต่ออัจฉริยะ

Intelligent Twins สร้างข้อกำหนดใหม่ 5 ประการสำหรับการเชื่อมต่อ

องค์ประกอบสำคัญ 4 ประการของ Intelligent Twins ได้แก่ การโต้ตอบอัจฉริยะ การเชื่อมต่ออัจฉริยะ การใช้งานอัจฉริยะ และฮับอัจฉริยะ ซึ่งในบรรดาสิ่งเหล่านี้ การเชื่อมต่ออัจฉริยะถือเป็นร่างกายของ Intelligent Twins แล้ว Intelligent Twins มีข้อกำหนดใหม่อะไรบ้างในการเชื่อมต่ออัจฉริยะ?

Intelligent Twins มีกรณีการเชื่อมต่อ 3 แบบด้วยกัน หนึ่งคือการเชื่อมต่อภายในฮับอัจฉริยะ เช่น การเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์กลุ่ม AI และศูนย์ข้อมูลคลาวด์ สองคือการเชื่อมต่อระหว่างฮับอัจฉริยะกับอุปกรณ์โต้ตอบอัจฉริยะ หรือจะเปรียบเป็นการเชื่อมต่อระหว่าง “สมอง” กับ “แขนขา” ก็ได้ สุดท้ายคือการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์โต้ตอบอัจฉริยะ เช่น การเชื่อมต่อกับกล้อง AI, โดรน 4K และแขนกล

โดยภาพรวมแล้ว Intelligent Twins มีข้อกำหนดสำคัญ 5 ประการสำหรับการเชื่อมต่อ ได้แก่ ความน่าเชื่อถือสูง การสูญเสียข้อมูลเป็นศูนย์ บริการที่แตกต่าง แบนด์วิดท์สูงแบบเรียลไทม์ และ O&M ที่ชาญฉลาด

เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดการเชื่อมต่อของ Intelligent Twins หัวเว่ยจึงได้นิยามคุณลักษณะสำคัญ 3 ประการของการเชื่อมต่ออัจฉริยะ ดังนี้

ประการแรกคือเครือข่ายความเร็วสูงที่ครอบคลุมทุกหนทุกแห่ง โดยแบนด์วิดท์เป็นพื้นฐานสำคัญของการเชื่อมต่อ ดังนั้นการใช้งานกล้อง AI, โดรน, กล้องอุตสาหกรรม และบริการ VR/AR เชิงอุตสาหกรรม จำเป็นต้องอาศัยการเชื่อมต่อในเครือข่ายความเร็วสูงที่ครอบคลุมทุกหนทุกแห่ง

ประการที่สองคือประสบการณ์ใช้งานที่เป็นไปตามที่กำหนด การเชื่อมต่อสำหรับ Intelligent Twins โดยหลัก ๆ มุ่งเป้าไปที่สิ่งของและสถานการณ์การผลิตที่หลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น ในช่วงเวลาที่การจราจรทางอากาศหนาแน่นที่สุดในปี 2019 มีเครื่องบินบินเข้าหรือบินออกจากสนามบินเซินเจิ้น 1 ลำ ทุก ๆ ไม่ถึง 1 นาที ซึ่งทำให้การรับประกันเครือข่ายแบบเรียลไทม์เป็นเรื่องที่จำเป็น อีกตัวอย่างหนึ่งคือ บริษัทไฟฟ้าต้องมั่นใจ '99.9999%’ หรือมีความน่าเชื่อถือสูงกว่านั้น และเกิดกรณีไฟดับต่ำกว่า 2 นาทีต่อ 1 ครัวเรือนต่อปี ด้วยเหตุนี้การเชื่อมต่อที่เป็นไปตามกำหนดคือหัวใจสำคัญต่อความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของบริการองค์กร

ประการที่สามคือระบบอัตโนมัติที่สูงขึ้นไปอีกขั้น ในขณะที่อุตสาหกรรมต่าง ๆ มีความอัจฉริยะขึ้น ประเภทของบริการ รวมถึงขนาดและความซับซ้อนของเครือข่ายจะเพิ่มเป็นทวีคูณ ทำให้งาน O&M เครือข่ายยุ่งยากขึ้น การใช้งานบิ๊กดาต้าและ AI จะเปลี่ยนรูปแบบ O&M ดั้งเดิมและกึ่งอัตโนมัติไปสู่ O&M อัตโนมัติขั้นสูง และปล่อยให้ความซับซ้อนทั้งหมดเป็นหน้าที่จัดการของระบบอัจฉริยะดิจิทัล

โซลูชันการเชื่อมต่ออัจฉริยะในทุกสถานการณ์ของหัวเว่ย

ในแง่ของเทคโนโลยี โซลูชันการเชื่อมต่ออัจฉริยะในทุกสถานการณ์ของหัวเว่ย จะมอบเครือข่ายความเร็วสูงที่ครอบคลุมทุกหนทุกแห่งและการเชื่อมต่อความหน่วงต่ำสำหรับอุปกรณ์โต้ตอบอัจฉริยะ และใช้ AI เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานเครือข่ายตามที่กำหนด และ O&M อัตโนมัติขั้นสูง ส่วนในแง่เครือข่ายนั้น โซลูชันเหล่านี้จะมอบ Intelligent Twins พร้อมเครือข่ายแคมปัส ดาต้าเซ็นเตอร์ WAN และเครือข่ายความปลอดภัย ซึ่งสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ แล้ว การเชื่อมต่ออัจฉริยะจะผสานเข้ากับการโต้ตอบอัจฉริยะ ฮับอัจฉริยะ และองค์ความรู้ในอุตสาหกรรม เพื่อสร้างโซลูชันอัจฉริยะที่ตอบโจทย์เฉพาะสถานการณ์สำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ

- การเชื่อมต่ออัจฉริยะ 5G: ความเร็วอัปลิงก์ระดับกิกะบิต, ความหน่วง 20ms และตำแหน่งที่แม่นยำสูงระดับ Sub-meter

เพื่อรองรับการอัปเกรดระบบอัจฉริยะของอุตสาหกรรม หัวเว่ยจะเดินหน้าเสริมสร้างขีดความสามารถในการเชื่อมต่ออัจฉริยะระดับ 5G ในแง่ของแบนด์วิดท์อัปลิงก์ ความหน่วง และความแม่นยำของตำแหน่งที่ตั้ง ยกตัวอย่างเช่น ในโดเมนอุตสาหกรรมการผลิตอัจฉริยะ หัวเว่ยได้ใช้เทคโนโลยี Super Uplink ในการให้ความเร็วการเชื่อมต่อจากสถานีภาคพื้นขึ้นไปยังดาวเทียมระดับกิกะบิตสำหรับการอัปโหลดวิดีโอระดับ HD ส่วนในสถานการณ์ที่ต้องการการดำเนินงานและควบคุมในระยะไกล เช่น ท่าเรือ เทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะ 5G จะมีฟีเจอร์ เช่น การตั้งเวลาล่วงหน้า และมินิสล็อตเพื่อลดความหน่วงเหลือเพียง 20ms และแทนที่แรงงานคน 90% ด้วยระบบการทำงานอัตโนมัติ ด้วย UTDOA และแบนด์วิดท์ที่สูงกว่านี้ การเชื่อมต่ออัจฉริยะ 5G ของหัวเว่ยจะมีความแม่นยำของตำแหน่งที่ตั้งระดับ Sub-meter สำหรับการผลิตอัจฉริยะ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและบริหารจัดการภายในนิคมอุตสาหกรรม

- เครือข่าย IP อัจฉริยะ: แบนด์วิดท์สูงและการสูญเสียเป็นศูนย์สำหรับทุกบริการ

บนพื้นฐานสถาปัตยกรรม AI 3 ชั้น ที่ประกอบด้วยองค์ประกอบเครือข่าย เครือข่าย และคลาวด์ เครือข่าย IP อัจฉริยะของหัวเว่ย ช่วยอำนวยความสะดวกในการอัปเกรดเครือข่ายแคมปัส WAN และดาต้าเซ็นเตอร์เป็นเวอร์ชัน 2.0

โซลูชัน CloudCampus 2.0 ของหัวเว่ย นำเครือข่ายแคมปัสไปสู่ยุคกิกะบิต รองรับการใช้งานทุกประเภทด้วยการเชื่อมต่อระดับกิกะบิตผ่านทางอุปกรณ์ใดก็ได้ และเปิดทางให้สามารถตั้งเวลาทรัพยากรเครือข่ายล่วงหน้าได้อย่างอัจฉริยะ ขณะที่โซลูชัน CloudWAN 2.0 นำความอัจฉริยะมาสู่เครือข่าย WAN ด้วย CloudWAN 2.0 นี้ สามารถบรรลุเป้าหมายการทำงานร่วมกันได้ระหว่างคลาวด์กับเครือข่าย ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการด้านบริการที่แตกต่าง ส่วน CloudFabric 2.0 ทำให้การสูญเสียข้อมูลเป็นศูนย์ในเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ และช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพการประมวลผลของ AI และการเก็บข้อมูลขึ้นกว่า 30% ส่งผลให้เครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์มีความอัจฉริยะมากขึ้น

- เครือข่ายออปติคัลอัจฉริยะ F5G: การเชื่อมต่อแบนด์วิดท์สูงและท่อที่ยืดหยุ่น

หัวเว่ยนำเสนอกลยุทธ์เครือข่ายออปติคัลเต็มรูปแบบสำหรับยุค F5G และเปิดตัว 3 โซลูชันเครือข่ายออปติคัลอัจฉริยะ

โซลูชันแรกคือ Campus OptiX ซึ่งมอบทางเข้าแบนด์วิดท์ที่สูงขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของเครือข่ายแคมปัสสำหรับบริการใหม่ ๆ เช่น กล้อง 4K และ VR/AR

โซลูชันที่ 2 คือ Single OptiX ซึ่งโซลูชันนี้สามารถตอบโจทย์ด้านการส่งสัญญาณในอัตราต่าง ๆ ขณะเดียวกันก็เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น

โซลูชันที่ 3 คือ DC OptiX โดยพนักงาน IT สามารถติดตั้งใช้งาน DC OptiX เพียงกดคลิกเดียว ทำให้เป็นโซลูชันที่พร้อมใช้งานสำหรับทุกสถานการณ์ในองค์กร

ด้วยกลยุทธ์นี้ หัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะขยายการเชื่อมต่อแบบออปติคัลกับเครือข่าย เพื่อมอบประสบการณ์บริการที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน ทุกบ้าน และทุกองค์กร

โซลูชัน ADN ของหัวเว่ย มุ่งตอบโจทย์ความต้องการขององค์กร

โซลูชัน ADN ของหัวเว่ย นำความอัจฉริยะมาสู่เครือข่าย โดยการผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับองค์ประกอบเครือข่าย ระบบเครือข่าย และคลาวด์ ทำให้เครือข่าย ADN ของหัวเว่ยมีการจัดการด้วยตัวเอง ดูแลรักษาด้วยตัวเอง และเพิ่มประสิทธิภาพด้วยตัวเอง โซลูชันเหล่านี้จะทำให้บริการอุตสาหกรรมดิจิทัลและการดำเนินงานด้วยระบบอัตโนมัติขั้นสูงกลายเป็นความจริง

องค์ประกอบเครือข่าย + AI: AI ใช้ในการอัปเกรดองค์ประกอบเครือข่ายดั้งเดิม ให้เป็นองค์ประกอบดิจิทัลและอัจฉริยะ ซึ่งช่วยให้ตรวจจับข้อมูลและประมวลผลทุกองค์ประกอบเครือข่ายได้คล่องตัวมากขึ้น

เครือข่าย + AI: หัวเว่ยใช้ AI ในการกำหนดนิยามใหม่ของการจัดการเครือข่าย ระบบการจัดการและควบคุมอัจฉริยะช่วยสร้าง Digital Twins ในเครือข่าย และเปิดทางให้ควบคุมได้แบบไดนามิกและจัดการเครือข่ายแบบวงปิดได้ เช่น การติดตั้งระบบอัตโนมัติ การจำลองก่อนเหตุการณ์ การตรวจสอบหลังเหตุการณ์ การทำนายและป้องกัน และการปรับปรุงประสิทธิภาพเชิงรุก

Cloud + AI: หัวเว่ยมอบการฝึกฝน AI บนคลาวด์ และบริการจำลองสำหรับเครือข่าย และเดินหน้าอัปเกรดระบบซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงโมเดล AI ที่ฝังลงในอุปกรณ์และเครือข่ายอยู่แล้ว สิ่งนี้ช่วยยกระดับเครือข่ายการขับเคลื่อนอัตโนมัติและทำให้เครือข่ายอัจฉริยะขึ้น

ลูกค้าของหัวเว่ยจากสนามบินเซินเจิ้น, China Southern Power Grid และ SPD Bank ได้ร่วมแชร์ประสบการณ์การใช้งานระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะของหัวเว่ย ในเซกเตอร์การคมนาคม ไฟฟ้า และการเงิน

คุณหวัง กล่าวสรุปว่า “ตลอดเวลา 40 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยทำงานกับผู้ถือผลประโยชน์ทั้งหมด เพื่อเชื่อมต่อผู้ที่ไม่ได้เชื่อมต่อและสร้างโลกที่เชื่อมต่อถึงกันทั้งหมด ส่วนใน 40 ปีข้างหน้า เรามุ่งมั่นที่จะสร้าง Intelligent Twins ระดับอุตสาหกรรม ด้วยการเชื่อมต่ออัจฉริยะ”

มหกรรม HUAWEI CONNECT 2020 เป็นงานใหญ่ประจำปีที่หัวเว่ยจัดขึ้นเพื่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศทั่วโลก โดยงานในปีนี้จัดขึ้นที่เซี่ยงไฮ้ ระหว่างวันที่ 23-26 กันยายน HUAWEI CONNECT เป็นเวทีเปิดกว้างที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ลูกค้าและพันธมิตรของเราก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลง รวมถึงแบ่งปันประสบการณ์และทำงานร่วมกันเพื่อสร้างคุณค่าใหม่ โดยในงานปีนี้ เราจะสำรวจแนวโน้มและโอกาสในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล จัดแสดงเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และโซลูชันไอซีทีขั้นสูง เผยผลสำเร็จของการสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกัน และแบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่เปิดกว้างและมั่นคง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้ถือผลประโยชน์ร่วมกันทั้งหมด และจะสร้างคุณค่าใหม่ให้กับทุกอุตสาหกรรม สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

https://www.huawei.com/en/events/huaweiconnect2020/

รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20200924/2927780-1

คำบรรยายภาพ - เดวิด หวัง ผู้อำนวยการบริหารและประธานบอร์ดประเมินการลงทุนของหัวเว่ย ประกาศเปิดตัวโซลูชันการเชื่อมต่ออัจฉริยะในทุกสถานการณ์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ