ขณะที่โครงการอสังหาฯภาคเอกชน คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากความต้องการที่พักอาศัยยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมาตรการการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองสำหรับที่อยู่อาศัยไม่เกิน 3 ล้านบาท และแคมเปญกระตุ้นตลาดของผู้ประกอบการ
สำหรับการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโต โดยเน้นการขยายฐานลูกค้ารายย่อย ผู้ออกแบบ ผู้รับเหมา ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ผลักดันสินค้าผ่านช่องทางการจำหน่ายให้หลากหลายมากขึ้น อาทิ โมเดิร์นเทรด ห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง และเพิ่มตัวแทนจำหน่าย ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง สามารถกระจายสินค้าเข้าสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยปัจจุบันมีวางจำหน่ายในไทวัสดุจำนวน 50 สาขา โกลบอลเฮ้าส์ 50 สาขา และดูโฮม 5 สาขาทั่วประเทศ
อีกทั้งมุ่งเน้นการทำตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ "อิฐมวลเบาประเภทตกแต่ง" พัฒนาคุณภาพและลวดลายใหม่เพิ่มเติม เพื่อรองรับความต้องการกลุ่มลูกค้า ควบคู่กับการใช้กลยุทธ์ O2O (Online to Offline ) กระตุ้นการสร้างยอดขายให้เติบโต และสร้างการรับรู้กับลูกค้าในวงกว้าง ผ่านสื่อออนไลน์และโซเชียลมีเดีย
สำหรับการขยายตลาดกลุ่มประเทศ CLMV บริษัทส่งสินค้าไปจำหน่ายในประเทศกัมพูชาและสปป.ลาว เพื่อใช้ในงานก่อสร้างและงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดีและมีออเดอร์สั่งซื้อสินค้าต่อเนื่องจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศดังกล่าวโดยบริษัทยังคงเดินหน้าเจรจาหาพันธมิตรเป็นตัวแทนจำหน่าย เพื่อขยายตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV อย่างต่อเนื่อง