นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ผู้ผลิต จัดหา และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหาร อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงสำหรับประกอบอาหาร อาหารมังสวิรัติที่ไม่มีส่วนผสมของไข่และนม อาหารโปรตีนจากพืช อาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมรับประทาน และเครื่องดื่มสำเร็จรูปชนิดผงและน้ำ รวมถึงผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคที่ไม่ใช่อาหารในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม (V-shape) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กลุ่มคลัสเตอร์เกษตรอาหาร (กรกอ.) สศก. สวก.และศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม หรือ ศูนย์ AIC (Agritech and Innovation Center) สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม หอการค้าไทยและกระทรวงพาณิชย์ และกลุ่มบริษัทเอกชนผู้ผลิตอาหารภายใต้โมเดลเนื้อจากพืช (Plant Based Meat) ร่วมดำเนินการตามโรดแมปตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารแห่งอนาคต หรือศูนย์กลางเจฮับของโลก และเรียกได้ว่าเป็น ซิลิคอน วัลเลย์อาหารแห่งอนาคต (Silicon Valley of Future Food)
โดยจะร่วมสานต่อนโยบายที่รัฐบาลได้กำหนดอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (First S-Curve New S-Curve) เพื่อสร้างโอกาสและศักยภาพใหม่ให้กับประเทศ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) รับผิดชอบโครงการพืชแห่งอนาคต (Future Crop) เพื่อตอบสนองการผลิตอาหารแห่งอนาคต (Future Food) รองรับความต้องการของตลาดที่เติบโตขึ้น และถือเป็นเมกะเทรนด์โลก ซึ่งเป็นอาหารที่ใช้โปรตีนจากพืช หรือ เนื้อจากพืช (Plant Based Meat)
สำหรับมูลค่าตลาดอาหารโปรตีนจากพืช (Plant-based Food) ในปัจจุบันมีมูลค่ารวมกันทั่วโลก 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นไปแตะ 80,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปีข้างหน้า เนื่องจากผู้บริโภคเห็นข้อดีของวัตถุดิบอาหารจากพืชและใส่ใจการรับประทานอาหารเพื่อดูแลสุขภาพ ซึ่งหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก ต่างเดินหน้าขยายผลิตภัณฑ์ โดยใช้วัตถุดิบจากพืชมาผลิต เช่น ขนุน ถั่วเหลือง ถั่วลันเตา มะเขือยาว เห็ด สาหร่าย เป็นต้น เพื่อผลิตเป็นอาหารเมนูต่างๆ อาทิ ซูชิ แฮมเบอร์เกอร์ ไส้กรอก ลูกชิ้นปลา เฝอ อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าหลังจากนี้จะมีการสร้างนวัตกรรมทำให้รสชาติ เนื้อสัมผัส และกลิ่นเหมือนของจริงมากที่สุด ในราคาเท่ากับเนื้อสัตว์และอาจพัฒนาต่อไปให้ถูกกว่าเนื้อสัตว์ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น
ทั้งนี้ ไทย ถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพเป็นฮับการผลิตอาหารโปรตีนจากพืช ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อรองรับเทรนด์การรับประทานอาหารแนวใหม่ในยุค New Normal ของผู้บริโภคทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น อาเซียน สหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งมีประชากรกว่า 4 พันล้านคน ที่พบว่ามีความต้องการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพเพิ่มขึ้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NRF กล่าวว่า บริษัทฯ พร้อมสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเข้าไปสู่ตลาดอาหารแห่งอนาคต ที่อาศัยความเชี่ยวชาญในการดำเนินงานของ NRF ที่เป็นฐานการผลิตอาหารโปรตีนจากพืช (Plant-Based Food) ตั้งแต่ ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ จากการซื้อผลผลิต และสนับสนุนสินค้าเกษตรกร ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ รวมถึงสนับสนุนธุรกิจการเกษตรใหม่ๆ และกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ทำให้ผลิตสินค้าที่มีความหลากหลาย ผลักดันความต้องการอาหารโปรตีนจากพืชให้เติบโต โดย NRF จะลงทุนก่อสร้างโรงงาน เพื่อเป็นฐานการผลิตทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมจัดตั้งศูนย์นวัตกรรม เพื่อผลิตและส่งออกอาหารโปรตีนจากพืชไปทั่วโลก
“เราเชื่อว่าสิ่งที่เรากำลังทำคือพลิกโฉมตลาดอาหารของโลกในอนาคตอันใกล้ โดยจะเป็นผู้สร้างดีมานด์และมีฐานการผลิตอาหารโปรตีนจากพืชที่ได้มาตรฐาน ที่ปราศจากยาปฏิชีวนะ คลอเรสเตอรอล ซึ่งการผลิตอาหารที่ NRF ทำจะช่วยโลกให้ยั่งยืน บริษัทฯ จึงมุ่งมั่นและให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียตั้งแต่ต้นน้ำ จนถึงปลายน้ำ ช่วยซัพพอร์ตเกษตรกร สร้างโอกาส และสร้างอาชีพ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในระบบมากขึ้น” นายแดน กล่าว