บล.บีฟิทเดินหน้าขายหุ้นไอพีโอไตรมาส 4/49 ชูจุดเด่นมาร์เก็ตแชร์พุ่ง ท่ามกลางการแข่งขันดุ

พุธ ๐๔ ตุลาคม ๒๐๐๖ ๑๔:๑๒
กรุงเทพฯ--4 ต.ค.--บีฟิท
บล.บีฟิท วางแผนเสนอขายหุ้นไอพีโอ 200.005 ล้านหุ้น ให้กับประชาชนทั่วไปภายในไตรมาส 4/49 ชูจุดแข็งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่สามารถฝ่ามรสุมการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจหลักทรัพย์ จนขยายส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มจาก 0.74% ในปี 2547 มาเป็น 3.55% ในช่วงหกเดือนแรกปี 2549
นายสุวิช รัตนยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าภายหลังจากที่บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายงานข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปแล้ว บริษัทอยู่ในระหว่างการเตรียมการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนต่อ โดยจะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 200.005 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้วของบริษัท ซึ่งจะทำให้ทุนชำระแล้วของบริษัทเพิ่มจาก 599.995 ล้านบาท เป็น 800 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถเปิดให้จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนและเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
สำหรับวัตถุประสงค์ในการใช้เงินที่ได้จากการจำหน่ายหุ้นสามัญต่อประชาชนในครั้งนี้ เพื่อขยายธุรกิจโดยการเพิ่มสาขา และ ใช้ในการพัฒนาคุณภาพของระบบงานและเทคโนโลยีสารสนเทศไว้รองรับการขยายตัวและการแข่งขันในอนาคต ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนใน กิจการตามแต่ฝ่ายบริหารของบริษัทจะเห็นสมควรและคณะกรรมการบริษัทลงมติอนุมัติ
บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (มหาชน) เป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หมายเลข 27 ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ซึ่งประกอบไปด้วยบริการ 4 ประเภท คือ 1.การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ 2.การค้าหลักทรัพย์ 3.การเป็นที่ปรึกษาการลงทุน และ 4.การจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ นอกจากนี้ ยังได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจการเป็นนายทะเบียนหลักทรัพย์ และได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน กลต.) ในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินอีกด้วย
ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2546 — งวดหกเดือนแรกปี 2549 มีรายได้รวม 211.49 ล้านบาท 256.26 ล้านบาท 657.30ล้านบาท และ 400.07 ล้านบาท ตามลำดับ โดยรายได้หลักของบริษัทมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งเท่ากับ 151.20 ล้านบาท 173.56 ล้านบาท 606.18 ล้านบาท และ
369.74 ล้านบาท ตามลำดับ ทั้งนี้ รายได้ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ในปี 2548 เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ถึงร้อยละ 249.26 เนื่องจากบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากร้อยละ 0.74 ในปี 2547 เป็นร้อยละ 3.19 ในปี 2548 ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่การตลาด การเปิดสาขาใหม่ ประกอบกับการประชาสัมพันธ์บริษัทผ่านสื่อต่างๆ ทำให้บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น โดยในช่วงหกเดือนแรกปี 2549 บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็นร้อยละ 3.55 โดยเป็นการเพิ่มมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ของลูกค้าประเภทบัญชีเงินสด และประเภทบัญชี Credit Balance และการขยายตัวของฐานลูกค้ากลุ่ม Internet Trading ซึ่งเป็นจุดขายสำคัญที่ทำให้บริษัทมีอัตราการเติบโตของรายได้ ซึ่งทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น จาก 57.41 ล้านบาทในปี 2547 เป็น 222.28 ล้านบาท ในปี 2548 และ 145.14 ล้านบาท ในงวดหกเดือนแรกปี 2549 และมีอัตรากำไรสุทธิ (ปรับเสมือนเต็มปีในงวดหกเดือนแรกปี 2549) เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 22.40 ในปี 2547 เป็นร้อยละ 33.82 ในปี 2548 และร้อยละ 36.28 ในงวดหกเดือนแรกปี 2549
นายสุวิช กล่าวเพิ่มเติมว่าท่ามกลางสภาวะการแข่งขันที่รุนแรง โดยบริษัทหลักทรัพย์แต่ละแห่งจะเน้นการแข่งขันที่คุณภาพในการให้บริการ ข้อมูลการวิเคราะห์หลักทรัพย์ รวมถึงความสามารถในการจัดสรรหุ้นใหม่ที่เสนอขายให้แก่ลูกค้า แต่บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด (มหาชน) สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้า พร้อมกับมีการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่การตลาดและขยายฐานลูกค้า ทำให้มีจำนวนลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้น และลูกค้ารายใหญ่มีการเพิ่มปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านบริษัทสูงขึ้น ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 0.74 ในปี 2547 เป็นร้อยละ 3.19 ในปี 2548 และ ร้อยละ 3.55 ในช่วงหกเดือนแรกปี 2549 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันของบริษัท
ทั้งนี้ สินทรัพย์รวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2546-2548 และ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2549 เท่ากับ 846.24 ล้านบาท 1,341.04 ล้านบาท 2,295.41 ล้านบาท และ 2,240.59 ล้านบาท ตามลำดับ และหนี้สินรวมของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2546-2548 และ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2549 เท่ากับ 359.66 ล้านบาท 837.99 ล้านบาท 1,569.29 ล้านบาท และ 1,368.15 ล้านบาท ตามลำดับ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
คุณณัฐพงษ์ ใจแกล้ว
โทร. 02-5549394-6

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๔๑ ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๖:๓๙ คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๖:๐๘ พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๖:๐๑ BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๖:๒๘ บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๖:๐๖ PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๖:๔๖ CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๖:๒๕ ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ