ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดสรุป 10 ข้อเศรษฐกิจไทย 2563 แนะปัจจัยดันเศรษฐกิจในปี 2564

พฤหัส ๑๕ ตุลาคม ๒๐๒๐ ๑๒:๔๔

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ชี้ปัจจัยลบภายในประเทศดึงเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า แนะ 2 เดือนที่เหลือของปีเร่งฟื้นความมั่นใจในประเทศ มุ่งเป้าเรียกความเชื่อมั่นต่างชาติในปีหน้า คาดท่องเที่ยวใช้เวลา 3-5 ปีกลับไปที่จุดก่อนโควิด

?เศรษฐกิจไทยอาจจะดีขึ้นจากตอนต้นปี เพราะต้นปีเป็นช่วงที่สถานการณ์โควิดของไทยวิกฤตที่สุด แต่วันนี้เศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวแบบไม่มั่นใจ แม้ว่าการส่งออกจะเริ่มฟื้นตัว แต่ความเคลื่อนไหวทางการเมืองภายในประเทศยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด สถานการณ์โควิดในเอเชียดูดีขึ้น แต่สถานการณ์ยังน่ากังวลอยู่ในยุโรป และสหรัฐอเมริกา? ดร.ทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าว

?เราเพิ่งได้ทีมเศรษฐกิจใหม่หลังจากขาดช่วงไปหลายเดือน การเบิกจ่ายจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งจากรัฐบาลและจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังอยู่ในระดับไม่สูงนัก ตอนนี้ตลาดการเงินอยู่ในภาวะ ?ติดตามดูสถานการณ์? ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทิศทางจากกระทรวงการคลัง การเบิกจ่าย การลงทุนของรัฐบาลที่ควรจะนำร่องภาคเอกชนให้มีการลงทุนภายในประเทศ การเมือง การเปิดประเทศ การพัฒนาวัคซีนสำหรับต้านโควิด?

ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดสรุป10 ข้อเศรษฐกิจไทย 2563 และปัจจัยเบื้องต้นผลักดันเศรษฐกิจในปี 2564

1. เศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้ว คาดว่าทั้งปีเศรษฐกิจจะหดตัวร้อยละ 8 อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวน่าจะเป็นไปอย่างช้า จากปัจจัยลบภายในประเทศ และความไม่แน่นอนต่างประเทศ โดยคาดจะฟื้นกลับมาเติบโตที่ร้อยละ 2 ในปี 2564

2. ตัวเลขส่งออกของประเทศเกิดใหม่ และภูมิภาคเอเชีย รวมถึงประเทศไทย ส่งสัญญาณปรับตัวดีขึ้น แต่กลไกขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทย คือ การท่องเที่ยว ยังไม่ฟื้น ดังนั้น ถึงแม้ว่าการส่งออกจะดีขึ้น แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยรวมจะยังไม่มั่นคง ถ้าการท่องเที่ยวยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้

3. จับตามองทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งว่าจะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับตลาดการเงินได้มากน้อยเพียงใด หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงซึ่งใช้เวลากว่าสามเดือนกว่าจะได้ทีมใหม่

4. ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะดำเนินต่อไปอย่างไร บนพื้นฐานว่าเศรษฐกิจไทยยังติดลบอยู่ ประเด็นนี้อาจกระทบการฟื้นตัว

5. จากที่มีการเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจและรอนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทีมใหม่ ในขณะที่การเมืองยังอยู่ในช่วงติดตามดูสถานการณ์ ส่งผลให้ไม่กระทบต่อค่าเงินบาทมากนัก โดยธนาคารคาดว่าค่าเงินบาทจะอยู่ที่ราว 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในสิ้นปีนี้

6. นักลงทุนต่างชาติอาจไม่ได้มองเพียงภาพในระยะสั้น แต่ยังมองระยะไกลด้วย โดยเฉพาะกับคำถามว่า เมื่อไหร่เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้อย่างชัดเจน เมื่อไหร่ประเทศจะได้เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน ซึ่งเป็นระดับในช่วงก่อนโควิด

7. เราเชื่อว่า โควิดทำให้ประเทศไทยเห็นความจำเป็นต่อการปรับกลยุทธ์ด้านการท่องเที่ยวของประเทศ จากเดิมที่มองที่จำนวนนักท่องเที่ยว เริ่มมีแนวคิดเปลี่ยนเป็นการท่องเที่ยวที่เน้นมูลค่า และพยายามลดการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่ง

8.ภาพรวมยังอยู่ในลักษณะ ?ติดตามสถานการณ์? ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคลัง การเบิกจ่าย สถานการณ์การเมือง การเริ่มเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว การคิดค้นวัคซีนต้านโควิด เพราะฉะนั้น ยังอาจไม่มีปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดความมั่นใจได้อย่างมีนัยสำคัญ ตลาดการเงินอาจจะเริ่มมั่นใจได้มากขึ้น หากเริ่มเห็นการเบิกจ่ายของรัฐบาลในทิศทางที่ดีขึ้น การลงทุนของรัฐบาล น่าจะเป็นตัวนำให้ภาคเอกชนลงทุนในประเทศตาม เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ

9. เราเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย ก็อยู่ในภาวะ ?ติดตามสถานการณ์? เช่นเดียวกัน ถ้าสถานการณ์ยังทรงตัวและเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น ธปท.น่าจะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% แต่ถ้าสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นหรือแย่ลงในช่วงในไตรมาสนี้ โอกาสที่ ธปท. จะลดดอกเบี้ยไปที่ 0.25% ก่อนสิ้นปี ก็เป็นไปได้

10.เราเชื่อว่าตลาดการเงินยังให้ความสนใจว่า นอกเหนือจากการลดดอกเบี้ย ธปท.มีนโยบายการเงินทางเลือกอะไร ที่อาจนำมาใช้ในปี 2564 จะเป็น QE หรือ yield curve control หรือ นโยบายช่วยเหลือ SMEs เพิ่ม รูปแบบ ประสิทธิภาพ ความเหมาะสมของนโยบายเหล่านั้นสำหรับเศรษฐกิจไทย ผลลัพธ์คาดการณ์ น่าจะเป็นประเด็นที่ตลาดการเงินและนักลงทุนให้ความสนใจต่อเนื่องไปถึงปีหน้า



 

















ติดต่อ:
n/a

หมวดข่าว: เศรษฐกิจ/การเงิน

คำค้น:  ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ