โครงการ Better Farms, Better Lives ช่วยชาวนา สู่ชีวิตวิถีใหม่ด้านการเกษตร ห่วงใยสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

พุธ ๒๑ ตุลาคม ๒๐๒๐ ๐๘:๓๒

โครงการ Better Farms, Better Lives ช่วยชาวนา
สู่ชีวิตวิถีใหม่ด้านการเกษตร ห่วงใยสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

ภาครัฐ ภาคเอกชน และเครือข่ายเกษตรกรกว่า 100 คน ร่วมกับ บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด จัดกิจกรรมภายใต้โครงการ Better Farms, Better Lives ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หวังยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรรายย่อยไทยหลังสถานการณ์โควิด-19 ทั้งด้าน ต้นทุนผลิต การใช้สารกำจัดศัตรูพืชอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย รวมทั้งการนำเทคโนโลยีโดรนมาใช้ในพื้นที่เพาะปลูก ช่วยส่งผลดีต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมในอนาคต

วิถีชีวิตของชาวนาและภาวะเศรษฐกิจชุมชนกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ล่าสุดยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ทาง บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด ร่วมกับมูลนิธิคลังสมองสหกรณ์ไทย จัดกิจกรรม ?การฟื้นฟูธุรกิจ และเศรษฐกิจข้าวชุมชน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา? ภายใต้ โครงการ Better Farms, Better Lives ณ โรงเรียนวัดสามบัณฑิต อำเภออุทัย จังหวัดพระนครอยุธยา โดยจัดให้มีการฝึกอบรมความรู้ให้กับเกษตรกร เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิต ส่งเสริมการใช้นวัตกรรม เช่น อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) และการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ฯลฯ โดยมีเครือข่ายเกษตรกรรายย่อยเข้าร่วมกว่า 100 คน

นายอนันต์ ภู่สิทธิกุล ประธานมูลนิธิคลังสมองสหกรณ์ไทย เปิดเผยว่า โครงการฯ นี้ มุ่งเน้นให้เกษตรกรปลูกข้าวในผืนนาที่ปลอดภัยต่อทั้งผู้ปลูกและผู้บริโภค ส่งเสริมคุณภาพชีวิตเกษตรกรรายย่อยให้ได้ถึง 50,000 คน ครอบคลุม 25 จังหวัดหรือราว 150 ชุมชน โดยได้รับความร่วมมือจากภาคีทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและเครือข่ายเกษตรกรต่างๆ
โครงการ Better Farms, Better Lives ณ ชุมชนเกษตรสามบัณฑิต จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นการจัดกิจกรรมผ่านสถานีการเรียนรู้ที่สนับสนุนเกษตรกรในการทำนา อาทิ การปลูกข้าวปลอดภัย นวัตกรรมปลูกข้าว การใช้โดรน การสร้างเงินออม ฯลฯ โดยมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาให้ความรู้การทำการเกษตรครบวงจร อาทิ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรมการข้าว สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นต้น

สำหรับกิจกรรมที่เกษตรกรให้ความสนใจมาก ก็คือสถานีให้ความรู้ โดรนเพื่อการเกษตร ช่วยเรื่องการพ่นยาปราบวัชพืชในนาข้าว ทำให้เกษตรกรประหยัดต้นทุนและเวลา ที่สำคัญคือปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการใช้คนเดินพ่นยา

นายฆาแวน คำดี ประธานศูนย์ส่งเสริมและผลิตพันธุข้าวชุมชน ตำบลเขาชะงุ้ม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี กล่าวว่า การใช้โดรนเพื่อการเกษตรนับเป็นนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมหลายพื้นที่และกำลังขยายตัวรวดเร็วเพราะตอบโจทย์ชาวนา เนื่องจากการใช้โดรนพ่นยาปราบวัชพืชคิดค่าบริการไร่ละ 60-80 บาท และ 1 ชม. สามารถพ่นได้ถึง 25 ไร่
?ถ้าใช้แรงงานคนอาจเปลืองเวลาทั้งวัน แถมแรงงานที่จะมาทำแบบนี้ก็หาได้ยากขึ้น เทียบกันแล้วค่าแรงคนกับการใช้โดรนเท่ากัน แต่โดรนมีความปลอดภัยกว่า ไม่ต้องให้เกษตรกรไปสัมผัสสารเคมีอีกด้วย?

ส่วนการบริหารต้นทุนอื่นๆ ก็เป็นปัจจัยสำคัญต่อชีวิตชาวนา โดย นางธนภรณ์ หงส์ทอง ในฐานะประธานกลุ่มนาแปลงใหญ่ อำเภอวังน้อย และประธานสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. กล่าวว่า การทำนาให้ประสบผลสำเร็จคือต้องบริหารจัดการแปลงนาของเราให้ดี โดยปัจจุบันมีแปลงนา 12 ไร่ เลือกปลูกพันธุ์ข้าว กข.43 น้ำตาลต่ำมาหลายปีแล้ว
"ข้าวพันธุ์นี้คนไทยนิยมบริโภคเพราะช่วยควบคุมน้ำตาล และเราก็คุมต้นทุนด้วย เวลาหว่านเมล็ดพันธุ์ใช้ปริมาณไม่มาก 15-20 กิโลกรัมต่อไร่ จากก่อนหน้านี้ต้องใช้ถึง 25 กิโลกรัม แถมข้าวในนาก็ไม่หนาแน่นพอมีช่องหายใจ ช่วยป้องกันศัตรูของข้าวอีกด้วย และการเป็นข้าวเพื่อสุขภาพ ราคาที่ขาย 5 กิโลกรัม 200 บาท หรือ 50 บาทต่อกิโลกรัม ถือเป็นราคาที่ชาวนาอยู่ได้?

นายสินสมุทร คงประโยชน์ ชาวนาต้นแบบอีกท่านหนึ่ง กล่าวเสริมว่า การใช้ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชอาจ ยังจำเป็นต้องใช้ต่อไป แต่ก็ควรผสมผสานกับปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ และต้องให้ความร่วมมือไม่เผาในแปลงนา ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญคือรวมกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

ด้านนายสุทธินาท คงสมทอง ประธานศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีตำบลสามบัณฑิต ระบุถึงสาเหตุที่ชาวนาจำนวนมาก ยังไม่เปลี่ยนวิถีการทำนาแบบเดิมๆ เป็นเพราะความ ?กลัว? การปรับเปลี่ยนสู่วิถีใหม่แล้วต้นทุนจะสูงขึ้น หรือบางส่วนยังไม่ตระหนักถึงสารตกค้างในนาข้าวเท่าที่ควร ซึ่งโครงการฯ นี้ช่วยแก้ปัญหาได้

ขณะที่ นายประพันธ์ ตรีบุบผา นายอำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มองว่า ปัจจัยที่จะทำให้ชาวนาเข้าถึงการช่วยเหลือจากภาครัฐก็คือการรวมกลุ่มเป็น ?เกษตรแปลงใหญ่? และต้องใช้เทคโนโลยีมาสนับสนุน ทั้งการปลูก การขาย และต้องเป็นการทำเกษตรที่ดีต่อคนและสิ่งแวดล้อม

โครงการ Better Farms, Better Lives จัดขึ้นโดย บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด ร่วมกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมการข้าว มูลนิธิคลังสมองสหกรณ์ไทย สำนักส่งเสริมและฝึกอบรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โปรดิวส์ จำกัด ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยที่เผชิญปัญหาทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิด -19 ด้วยการมอบชุดผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ความปลอดภัยจำนวน 50,000 ชุด พร้อมโครงการการฝึกอบรมความรู้การผลิตข้าวในวิถีใหม่ด้วยเทคโนโลยีที่ปลอดภัย เกิดความยั่งยืน รวมมูลค่า 20 ล้านบาท ให้กับเกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกข้าวเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา จังหวัดปทุมธานี สุพรรณบุรี พิษณุโลก และพื้นที่ใกล้เคียง 26 จังหวัด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ ดร.เอ้ สุดยอดผู้นำด้าน AI เชื่อมั่น รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร จะปฏิวัติการแพทย์ไทย ด้วย AI พร้อมความตั้งใจอันแน่วแน่
๐๙:๐๓ รมว.นฤมล ผลักดันกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
๐๙:๑๖ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนร่วมบริจาคโลหิต 26 ธันวาคมนี้ ชั้น 7 โซน A เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต
๐๙:๔๗ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเต็ม!! ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน
๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย