ธนาคารกรุงเทพรายงานกำไรสุทธิสำหรับ 9 เดือนปี 2563 จำนวน 14,783 ล้านบาท

พุธ ๒๑ ตุลาคม ๒๐๒๐ ๐๙:๒๓

ในไตรมาส 3 ปี 2563 เศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน หลังรัฐบาลได้ทยอยผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) การส่งออกและการนำเข้าสินค้าของไทยได้ผ่านจุดต่ำสุด หลังจากธุรกิจทั่วโลกเริ่มกลับมาเปิดกิจการ สำหรับภายในประเทศ การผลิตภาคอุตสาหกรรม การบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน ตลอดจนการท่องเที่ยวในประเทศค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น หลังจากประชาชนเริ่มกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ โดยรัฐบาลได้เร่งใช้จ่ายและออกมาตรการเพิ่มเติม
เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้ ทำให้การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐขยายตัวและเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการฟื้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม การระบาดรอบที่สองในหลายประเทศ ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักของประเทศไทยในระยะต่อไป

นอกจากนี้ รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมาตรการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อผ่อนคลายผลกระทบเชิงลบทางเศรษฐกิจต่อประชาชนและผู้ประกอบการในหลายภาค ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แม้ว่าบางมาตรการในการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้จะทยอยสิ้นสุดลง ธปท. ได้หารือกับสถาบันการเงินอย่างต่อเนื่อง ในการดูแลลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเป็นระบบและเหมาะสมกับลูกหนี้แต่ละประเภท โดยธนาคารยังคงให้ความสำคัญในการดูแลกระบวนการอำนวยสินเชื่อและบริหารความเสี่ยงด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ รวมทั้งติดตามสถานการณ์ลูกค้าแต่ละกลุ่มอย่างใกล้ชิด และให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องจนกว่าโควิด-19 จะคลี่คลาย พร้อมเป็น ?เพื่อนคู่คิด? เพื่อให้สามารถก้าวข้ามวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

กำไรสุทธิของธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อย ใน 9 เดือนของปี 2563 มีจำนวน 14,783 ล้านบาท
ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยรายงานกำไรสุทธิสำหรับ 9 เดือนของปี 2563 จำนวน 14,783 ล้านบาท ซึ่งได้รวมผลประกอบการของธนาคารเพอร์มาตา ตั้งแต่วันที่ธนาคารเข้าถือหุ้นเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2563 โดยกำไรสุทธิลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักเนื่องจากการตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นเงินสำรองสำหรับความไม่แน่นอนจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวจากผลกระทบของสถานการณ์ โควิด-19 ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง

รายได้ดอกเบี้ยสุทธิของธนาคารเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.2 จากช่วงเดียวกันของปี 2562 เป็นผลจากการรวมรายได้ดอกเบี้ยสุทธิของธนาคารเพอร์มาตา โดยมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 2.28 รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงสาเหตุหลักจากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิและรายได้จากเงินลงทุน สำหรับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.6 เป็นผลจากการรวมค่าใช้จ่ายของธนาคารเพอร์มาตา และประมาณการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการควบรวมสาขาในประเทศอินโดนีเซีย ขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ร้อยละ 52.0

ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจที่หดตัวทั่วโลก ธนาคารกรุงเทพยังคงยึดมั่นแนวทางการดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ ควบคู่กับการดำรงฐานะการเงิน สภาพคล่อง และเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินที่ยั่งยืน และเตรียมพร้อมการรองรับการดำเนินธุรกิจตามบริบทใหม่ (New Normal)
ณ สิ้นเดือนกันยายน 2563 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 2,367,296 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.6 จากสิ้นเดือนมิถุนายน 2563 จากสินเชื่อลูกค้าธุรกิจและลูกค้าบุคคล สำหรับอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่ร้อยละ 4.1 ขณะที่ธนาคารยังคงรักษาความมั่นคงของอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตที่ร้อยละ 178.0 ทั้งนี้ ธนาคารยังคงให้ความสำคัญในการดูแลกระบวนการอำนวยสินเชื่อและบริหารความเสี่ยง ควบคู่กับการดำรงค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

ด้านเงินกองทุนและสภาพคล่อง ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 ธนาคารมีเงินรับฝากจำนวน 2,821,883 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1.1 จากสิ้นเดือนมิถุนายน 2563 สำหรับอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากอยู่ที่ร้อยละ 83.9 สะท้อนถึงสภาพคล่องที่เพียงพอในการรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ในวันที่ 23 กันยายน 2563 ธนาคารออกตราสารหนี้ด้อยสิทธิที่สามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ของธนาคารภายใต้หลักเกณฑ์ Basel III จำนวน 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อเสริมสร้างโครงสร้างเงินกองทุนของธนาคารให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2563 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยอยู่ที่ร้อยละ 17.6 ร้อยละ 15.1 และร้อยละ 14.2 ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด

การเข้าถือหุ้นและการเข้าลงทุนเพิ่มเติมของธนาคารกรุงเทพ
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2563 ธนาคารได้ดำเนินการจัดทำคำเสนอซื้อเพื่อเสนอซื้อหุ้นของธนาคารเพอร์มาตาจากผู้ถือหุ้นรายย่อย (Mandatory Tender Offer - MTO) ตามกฎเกณฑ์ของประเทศอินโดนีเซีย เสร็จสิ้นเรียบร้อย โดยธนาคารถือหุ้นในธนาคารเพอร์มาตาทั้งสิ้นร้อยละ 98.71 ของหุ้นที่ออกและชำระแล้วของธนาคารเพอร์มาตา และเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2563 ธนาคารกรุงเทพเข้าถือหุ้นสามัญในบริษัท บีเอสแอล ลีสซิ่ง จำกัด เพิ่มเติม จากเดิมมีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 35.9 เป็นร้อยละ 90.0 ทำให้บริษัทมีสถานะเป็นบริษัทย่อย

การนำมาตรฐานกลุ่มเครื่องมือทางการเงินฉบับใหม่มาถือปฏิบัติ
ธนาคารและบริษัทย่อยได้นำมาตรฐานกลุ่มเครื่องมือทางการเงินฉบับใหม่ (ฉบับที่ 9) มาถือปฏิบัติกับงบการเงินสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป โดยไม่ปรับงบการเงินเปรียบเทียบย้อนหลัง การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ได้แก่ การจัดประเภทและการวัดมูลค่าสินทรัพย์และหนี้สินทางการเงิน การคำนวณการด้อยค่าของสินทรัพย์ทางการเงินโดยใช้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss) การบัญชีป้องกันความเสี่ยง และการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อโดยใช้วิธีอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Effective Interest Rate: EIR)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ