SUPER ยิ้มรับธนาคารกลางของประเทศเวียดนาม (State Bank of Vietnam )อนุมัติการขึ้นทะเบียนเงินกู้ต่างประเทศ วงเงิน 38ล้านดอลลาร์ฯ หรือคิดเป็นเงินบาท ประมาณ 1,200 ล้านบาท ให้กับโครงการโซลาร์ฟาร์มที่เวียดนาม ขนาดกำลังผลิต 50 เมกะวัตต์ ฟาก "จอมทรัพย์ โลจายะ" บอสใหญ่ ระบุช่วยเพิ่มสภาพคล่อง สนับสนุนการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง และช่วยผลักดันเป้าหมายการขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจของภูมิภาคเอเชียได้ในอนาคต
นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) เปิดเผยว่า โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) Thinh Long Phu Yen ที่ประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 50 เมกะวัตต์ ได้รับการอนุมัติการขึ้นทะเบียนเงินกู้ต่างประเทศ(Foreign Loan Registration Certification )จากธนาคารกลางประเทศเวียดนาม (State Bank of Vietnam ) เป็นที่เรียบร้อยทำให้บริษัทมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น และนำไปใช้ในการลงทุนโครงการใหม่ๆ ในอนาคต
ทั้งนี้โครงการ Thinh Long Phu Yen เป็นโครงการร่วมทุน SUPER SOLAR ENERGY (HONGKONG) 3 CO.,LTD. (SSE-HK3) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SUPER กับพันธมิตรในประเทศเวียดนาม SSE-HK3 ร่วมกันถือหุ้นในบริษัท THINH LONG PHU YEN SOLAR POWER JOINT STOCT COMPANY (TTLPY) ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของโครงการดังกล่าว
? การที่เราได้รับการขึ้นทะเบียน State Bank of Vietnam ครั้งนี้ ส่งผลให้บริษัทสามารถนำวงเงิน มูลค่ารวมกว่า 38ล้านดอลลาร์ฯ หรือคิดเป็นเงินบาท ประมาณ 1,200 ล้านบาท ที่ได้รับวงเงินสินเชื่อ(Project Financing) จากธนาคารเพื่อการส่งออก และนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และธนาคารไอซีบีซี (ไทย) มาชำระคืนให้กับ SUPER ซึ่งทำสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น และนำไปใช้ในการขยายงานในโครงการต่างๆในประเทศเวียดนามทั้งปัจจุบันและในอนาคต ?
นายจอมทรัพย์ กล่าวอีกว่า ประเทศเวียดนาม ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตและมีการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์สูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ขณะที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทในการขยายช่องทางการเพิ่มรายได้ การลงทุนในต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทในการเป็นผู้นำพลังงานทดแทนในภูมิภาคเอเชียอีกด้วย
ปัจจุบันโครงการโรงไฟฟ้าของ SUPER ในประเทศเวียดนาม แบ่งเป็นโครงการโซลาร์ฟาร์ม มีกำลังการผลิตรวม 836.72 เมกะวัตต์ โดยโครงการที่อยู่ระหว่างรอดำเนินการจ่ายกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD ) 550 เมกะวัตต์ะ ซึ่งคาดว่าจะCODได้ในเดือนธันวาคม 2563 ขณะที่มีโครงการพลังงานลม (วินด์ฟาร์ม) ขนาดกำลังการผลิตอีก 421 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะทยอย CODได้ภายในปี 2564