มว. เปิดบริการสอบเทียบเครื่องตรวจจับความเร็ว ม.ค. 64! สนับสนุนความปลอดภัยบนท้องถนน

พุธ ๒๘ ตุลาคม ๒๐๒๐ ๑๔:๐๑

" สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ (มว.) พัฒนาระบบสอบเทียบเครื่องตรวจจับความเร็วพร้อมด้วยอาคารห้องปฏิบัติการ รวมถึงระบบการถ่ายทอดเทคโนโลยีสำหรับถ่ายทอดค่าความถูกต้องของผลการวัดของเครื่องตรวจจับความเร็ว เพื่อสนับสนุนการบังคับใช้กฏหมาย ให้มีความถูกต้องรัดกุม มีประสิทธิภาพ และเป็นธรรมต่อประชาชน ส่งผลให้เกิดความปลอดภัยบนท้องถนน อีกทั้งยังช่วยลดเวลา และลดค่าใช้จ่ายของผู้ใช้งานในการส่งเครื่องมือไปสอบเทียบต่างประเทศ "

สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ (มว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ตระหนักถึงความจำเป็นในการสร้างระบบการสอบกลับ (Traceability) ไปยังหน่วย SI ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้พิสูจน์และสร้างมาตรฐานให้แก่เครื่องตรวจจับความเร็วให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อถือได้ในระดับสากล จึงได้ริเริ่มพัฒนาระบบสอบเทียบเครื่องตรวจจับความเร็ว พร้อมด้วยอาคารห้องปฏิบัติการ รวมถึงระบบการถ่ายทอดเทคโนโลยีสำหรับถ่ายทอดค่าความถูกต้องของผลการวัดของเครื่องตรวจจับความเร็วขึ้นในประเทศไทย

ทั้งนี้ การสอบเทียบที่สามารถสอบกลับไปยังมาตรฐานการวัดแห่งชาติ เป็นวิธีการที่สามารถใช้เพื่อการพิสูจน์และสร้างมาตรฐานให้แก่เครื่องตรวจจับความเร็วดังกล่าวให้สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้องและนำมาใช้ในการควบคุมวินัยจราจร ความปลอดภัยบนท้องถนน และความเป็นธรรมในการอ้างอิงทางกฎหมาย

ระบบสอบเทียบเครื่องตรวจจับความเร็วพร้อมด้วยอาคารห้องปฏิบัติการ ได้รับการสนับสนุนจากหลายหน่วยงาน อาทิ ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ ประเทศสาธารณรัฐเกาหลีใต้ : KRISS   ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนข้อมูลด้านการออกแบบระบบสอบเทียบเครื่องตรวจจับความเร็วรอบ  และการออกแบบเครื่องกำเนิดความเร็วคงที่  ระบบสายพาน และตัวรับสัญญาณเลเซอร์ และยังมีผู้สนับสนุนในส่วนของผู้ใช้งานระบบ ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กรมการขนส่งทางบก รวมไปถึงความร่วมมือระหว่างโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และ NECTEC จากสวทช. ซึ่งเป็นผู้วิจัยสร้างเครื่องต้นแบบ

รู้หรือไม่! การขับรถเร็วเกินอัตราเป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุบนท้องถนน

ที่ผ่านมา การขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด เป็นสาเหตุหลักอันดับต้น ๆ ของอุบัติเหตุบนท้องถนนในประเทศไทย ที่สร้างความเสียหายเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินทั้งของผู้ขับขี่และผู้ร่วมทาง ดังจะเห็นได้จากรายงานข่าวประจำวันจากสำนักข่าวต่างๆ ที่ทุกคนได้ยินและทราบกันดี  การบังคับใช้กฎหมาย "ขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด" อย่างจริงจังและต่อเนื่องจะนำไปสู่การแก้ไขและลดปัญหาการเกิดอุบัติเหตุทางถนนได้อย่างสอดคล้องกับสภาพปัญหาและมีประสิทธิภาพ 

ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองบังคับการตำรวจจราจร กองบังคับการตำรวจทางหลวง กรมการขนส่งทางบก และ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย จึงได้มีการนำเครื่องตรวจจับความเร็ว อาทิ กล้องตรวจจับความเร็วด้วยแสงเลเซอร์ และกล้องตรวจจับความเร็วด้วยคลื่นวิทยุมาใช้ เพื่อประกอบเป็นหลักฐานในการบังคับใช้กฎหมาย   และเนื่องจากการนำเครื่องตรวจจับความเร็วของรถประเภทต่าง ๆ มาใช้งานเพื่อประกอบเป็นหลักฐานในการบังคับใช้กฎหมายจำเป็นต้องมีความแม่นยำสูง มาตรฐานของกล้องที่ใช้ควรมีค่าความถูกต้องในการตรวจจับ

โดยกล้องตรวจจับความเร็วรถ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

1. Radar Camera  และ 2. Laser Camera ซึ่งกรมตำรวจใช้มากสุดคือ Laser Camera ปัจจุบันห้องปฏิบัติการสอบเทียบเครื่องตรวจจับความเร็วของ มว. สามารถสอบเทียบเครื่องตรวจจับความเร็วชนิด Lidar ซึ่งเป็นชนิดที่ใช้หลักการสะท้อนกลับของ Laser เท่านั้น โดยสามารถวัดความเร็วสูงสุดได้ที่ 120 กม./ชม. มีความผิดพลาดของระบบเพียง 0.01 กิโลเมตร / ชั่วโมง โดยจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ในเดือนมกราคม 2564 นี้

สำหรับท่านที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

โทร. 0-2577-5100 Ext.1253 คุณ สุรเชษฐ เพิ่มฉลาด หัวหน้าโครงการ  Email: [email protected]

Ext. 1337 คุณ เทพบดินทร์ บริรักษ์อราวินท์ Email: [email protected]

Ext.1335 ดร.ปิยพัฒน์ พูลทอง 025775100 Email: [email protected]

Ext.1335 คุณ ศุภชัย ตั้งศุภภัคธาดา 025775100 Email [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ