GPSC คว้า 4 รางวัล The 10th Asian Excellence Awards 2020 การันตีความสำเร็จ ผู้นำขับเคลื่อนธุรกิจนวัตกรรมพลังงาน ยึดหลักธรรมาภิบาล ดันองค์กรเติบโตยั่งยืน มุ่งสร้างเสถียรภาพพลังงานไทย ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่มปตท. เปิดเผยว่า นับเป็นความสำเร็จและความภาคภูมิใจของบริษัทฯ ที่ได้รับรางวัล The 10th Asian Excellence Awards 2020 หรือ รางวัลความเป็นเลิศแห่งเอเชีย จำนวน 4 รางวัล ประกอบด้วย 1. รางวัลซีอีโอยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย หรือ Asia?s Best CEO ได้แก่ คุณชวลิต ทิพพาวนิช 2. รางวัลซีเอฟโอยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย หรือ Asia?s Best CFO ได้แก่ คุณวนิดา บุญภิรักษ์ 3. รางวัลซีเอสอาร์ยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย หรือ Asia?s Best CSR และ 4. รางวัลบริษัทนักลงทุนสัมพันธ์ยอดเยี่ยม หรือ Best Investor Relations Company (Thailand) ที่ยืนยันถึงความมุ่งมั่นขององค์กรในการดำเนินธุรกิจด้านนวัตกรรมพลังงาน ด้วยความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ สังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อม บนหลักธรรมาภิบาลที่ดีในการขับเคลื่อนองค์กรให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืนและเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้ 4 รางวัลดังกล่าว เป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่มอบให้แก่บริษัทในภูมิภาคเอเชียที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ซึ่ง GPSC ให้ความสำคัญในบริบทของความยั่งยืนและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโลก ด้วยกลยุทธ์การพัฒนาธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมพลังงานเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงของระบบพลังงาน
รางวัลความเป็นเลิศแห่งเอเชีย จัดขึ้นโดยนิตยสาร Corporate Governance Asia หน่วยงานที่มุ่งมั่นด้านการกำกับดูแลกิจการในภูมิภาคเอเชีย เป้าหมายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในความเป็นเลิศในด้านต่างๆในองค์กรนับตั้งแต่การก่อตั้งในปี 2011 เพื่อกำหนดมาตรฐานระดับสูง คัดเลือกและมอบรางวัลให้กับองค์กรธุรกิจต่างๆ กับหลายประเทศทั่วทั้งภูมิภาค ได้แก่ จีน, ฮ่องกง, อินเดีย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ไต้หวัน และไทย
ข้อมูลเกี่ยวกับ GPSC
GPSC ถือหุ้นโดย บมจ.ปตท. (PTT) ในสัดส่วน 22.8% บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (GC) 22.7% บมจ.ไทยออยล์ (TOP) 8.9% บจ. ไทยออยล์ พาวเวอร์ (TP) 20.8% และนักลงทุนทั่วไป 24.8%
GPSC แกนนำในการดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและสาธารณูปโภคของกลุ่ม ปตท. ดำเนินธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และสาธารณูปโภคต่าง ๆ เพื่อจำหน่ายแก่ลูกค้าอุตสาหกรรม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และอื่นๆ โดยปัจจุบัน มีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ได้รับอนุมัติแล้วตามสัดส่วนการถือหุ้น (Equity MW) รวมประมาณ 5,026 เมกะวัตต์ ไอน้ำรวมประมาณ 2,876 ตันต่อชั่วโมง น้ำเย็นรวมประมาณ 15,400 ตันความเย็น และน้ำเพื่อการอุตสาหกรรมรวมประมาณ 7,372 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง