บมจ.ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ (TACC) โชว์กำไรงวดไตรมาส 3/63 เพิ่มขึ้น 12.98% แตะระดับ 46.72 ล้านบาท เนื่องจากกำลังซื้อฟื้นตัวหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย การยกเลิกเคอร์ฟิว และผลจากการปรับขนาดแก้วในกลุ่มเครื่องดื่ม Non-Coffee ใน All Cafe ของร้านเซเว่นฯ ฟาก"ชัชชวี วัฒนสุข" ประธานกรรมการบริหาร ประเมินโค้งสุดท้ายปี 63 แนวโน้มดีต่อเนื่อง เดินหน้าเสิร์ฟผลิตภัณฑ์ใหม่ตรงใจผู้บริโภค ช่วยสนับสนุนผลงานปีนี้สดใส
นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC เปิดเผยว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 3/2563 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 46.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.98% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 41.35 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 347.51 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 2563 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 137.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.78 % จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 114.49 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 1,129.59 ล้านบาท
สาเหตุที่ทำให้มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นนั้น เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย การยกเลิกเคอร์ฟิว และการปรับขนาดแก้วในกลุ่มเครื่องดื่ม Non-Coffee ใน All Cafe ของร้านเซเว่นฯ ส่งผลกำลังซื้อเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรก ขณะเดียวกันบริษัทฯใช้กลยุทธ์การบริหารต้นทุนอย่างต่อเนื่องให้เกิดประโยชน์สูงสุดที่ช่วยให้รักษาความสามารถการทำกำไรขั้นต้นในระดับที่ดีได้ ตลอดจนการทำโปรโมชั่นในรูปแบบต่างๆ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
รวมทั้งได้มีการวางจำหน่ายสินค้าเครื่องดื่มชนิดใหม่ ในร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมนูของคนรักสุขภาพ ซึ่งกำลังเป็นกระแสนิยมในปัจจุบัน และจะช่วยสนับสนุนยอดขายได้อีกทาง สำหรับใน
All Cafe ของร้านเซเว่นฯ ที่มีการขยายจำนวนสาขามากขึ้น และ บริษัทฯได้ปรับเพิ่มขนาดแก้วเครื่องดื่มเป็น 22 ออนซ์จาก 16 ออนซ์ ครอบคลุมทุกสาขาที่มีมุม All Cafe ทั่วประเทศ ส่งผลให้มีอัตราการซื้อมากขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ ในส่วนของธุรกิจ Character Business ที่ผ่านมาได้มีการเปิดตัว Rilakkuma Cafe ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีผลตอบรับที่ดีมาก และสินค้าใหม่ของ Character หมาจ๋า ได้มีวางจำหน่ายที่ร้าน Loft Siam Discovery และมีการขยายไปยัง ICON SIAM ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างการรับรู้ใน Character Rilakkuma และหมาจ๋า ที่มากขึ้น
"ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2563 เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ประสิทธิภาพของการบริหารต้นทุน ยังทำได้ดี สามารถผลักดันให้กำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ออกมาก็มีกระแสการตอบรับที่ดีช่วยกระตุ้นยอดขายได้มากขึ้นด้วย"
ประธานกรรมการบริหาร กล่าวต่อถึงแนวโน้มในไตรมาส 4/2563 ว่าการดำเนินธุรกิจยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่มาเสิร์ฟให้ผู้บริโภค และเน้นยังคงเน้นกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมต้นทุน เพื่อสนับสนุนให้ความสามารถในการทำกำไรอยู่ในระดับที่ดี ดังนั้นภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2563 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้