บมจ. เน็คซ์ แคปปิตอล เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 9 พ.ย. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,980 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ ว่า "NCAP"
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยินดีต้อนรับ บมจ. เน็คซ์ แคปปิตอล เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงิน หมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "NCAP" ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563
NCAP เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ซึ่งไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย มุ่งเน้นการให้บริการแก่ลูกค้ารายย่อยที่ต้องการเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ใหม่เป็นหลัก (Hire purchase) ด้วยการซื้อรถจากพันธมิตรตัวแทนจำหน่าย (Dealer) แล้วนำมาให้ลูกค้าเช่าซื้อ ผ่าน 24 สาขา ทั่วทุกภูมิภาค ซึ่งถือเป็นแหล่งเงินทุนทางเลือกสำหรับลูกค้ากลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินอื่น
NCAP มีทุนชำระแล้ว 450 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 600 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) 300 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่าย 225 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัท กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน และบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับบริษัทรวม 75 ล้านหุ้น ในวันที่ 30 ตุลาคม และวันที่ 2-3 พฤศจิกายน 2563 ในราคาหุ้นละ 2.20 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 660 ล้านบาท โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,980 ล้านบาท โดยมีบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายสมชัย ลิมป์พัฒนสิน กรรมการผู้จัดการ บมจ. เน็คซ์ แคปปิตอล (NCAP) เปิดเผยว่า NCAP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อเสริมศักยภาพทางการเงินในการขยายธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ โดยบริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้งนี้ชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในการประกอบธุรกิจและความสามารถในการแข่งขัน เพื่อให้ NCAP ก้าวเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน สร้างผลตอบแทนระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้น รวมทั้งเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความมั่นคงให้กับเศรษฐกิจของประเทศ
NCAP มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ 1) บมจ. คอมเซเว่น (COM7) 33.93% 2) บมจ. ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX) 26.67% และ 3) บ.วิสต้า อินเวสท์เม้นท์ ลิมิเต็ด 5.00% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO มาจากวิธีอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E Ratio) ทั้งนี้ ราคาที่เสนอขายคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 9.30 เท่า เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิของบริษัทในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ทั้งนี้ NCAP มีนโยบายการจ่ายเงินปันผล ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังหักภาษีเงินได้และการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.nextcapital.co.th และที่ www.set.or.th