วว. ผนึกกำลัง GISTDA /พันธมิตร ร่วมพัฒนางานวิจัยด้านนวัตกรรมพลังงานสะอาด สิ่งแวดล้อม มุ่งส่งเสริมความรู้ พัฒนาทักษะ

จันทร์ ๐๙ พฤศจิกายน ๒๐๒๐ ๑๑:๒๒

ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมเป็นเกียรติและสักขีพยาน ในพิธีลงนามความร่วมมือวิชาการด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ระหว่าง ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) และนายปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เพื่อส่งเสริม ผลักดัน ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้านนวัตกรรมพลังงานสะอาดและสิ่งแวดล้อม เสริมสร้างความตระหนัก ส่งเสริมความรู้ ต่อยอดการสร้างอาชีพ เสริมสร้างความเข้มแข็งในงานวิชาการ มุ่งสู่การเป็นแหล่งอ้างอิงข้อมูลของงานวิชาการทั้งในระดับชาติและนานาชาติ ณ หอประชุมหลวงราช สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช จังหวัดนครราชสีมา

ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า การบูรณาการผสานความร่วมมือทางวิชาการและงานวิจัยในครั้งนี้ ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาเทคโนโลยีและพัฒนาประเทศให้เกิดความยั่งยืน และก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายและแนวความคิดในการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) รวมทั้งเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศมาใช้ส่งเสริมและผลักดัน เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในด้านนวัตกรรมพลังงานสะอาดและสิ่งแวดล้อม โดยการพัฒนาทักษะและขีดความสามารถของบุคลากร การใช้ทรัพยากรเครื่องมือและโครงสร้างพื้นฐานที่มี เพื่อการบริหารจัดการพื้นที่ทั้งในด้านความหลากหลายทางชีวภาพ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การส่งเสริมองค์ความรู้ ผ่านรูปแบบของพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ในพื้นที่ ได้แก่ สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช และพื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราช โดยดำเนินการผ่านเครือข่ายพันธมิตร ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคอุดมศึกษา และภาคประชาชน เพื่อเสริมสร้างความตระหนัก ส่งเสริมความรู้ ต่อยอดการสร้างอาชีพ และเสริมสร้างความเข้มแข็งในงานวิชาการ เพื่อเป็นแหล่งอ้างอิงข้อมูลของงานวิชาการทั้งในระดับชาติและนานาชาติ

นายปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า องค์ความรู้ของ GISTDA สามารถสร้างแนวทางการพัฒนางานวิจัยด้านนวัตกรรมพลังงานสะอาดและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช และพื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราช ในด้านการใช้ฐานข้อมูลเทคโนโลยีด้านภูมิสารสนเทศและอวกาศเพื่อประโยชน์ในงานบริการวิชาการและงานวิจัย การใช้เทคโนโลยีด้านภูมิสารสนเทศและอวกาศในการจัดทำฐานข้อมูลด้านภูมิสารสนเทศ การจัดทำฐานข้อมูลด้านความหลากหลายทางชีวภาพและการกระจายของสิ่งมีชีวิตที่หายาก ใกล้สูญพันธุ์ หรือพบเฉพาะในพื้นที่ การใช้เทคโนโลยีด้านอวกาศในการติดตามและคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติ การจัดทำแนวเขตการจัดการพื้นที่ รวมทั้งการสร้างแนวทางการเรียนรู้แบบใหม่เพื่อส่งเสริมความรู้ พัฒนาทักษะ เสริมสร้างขีดความสามารถในการพัฒนากำลังคน และต่อยอดการสร้างอาชีพ

สำหรับขอบเขตความร่วมมือ ภายใต้การลงนามทางวิชาการของ วว. และ GISTDA มีหลายระดับ ดังนี้

  1. ในระดับองค์กร : การใช้ฐานข้อมูลเทคโนโลยีด้านภูมิสารสนเทศและอวกาศเพื่อประโยชน์ในงานบริการวิชาการและงานวิจัย ตามที่ วว. โดย ศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมพลังงานสะอาดและสิ่งแวดล้อม (ศนพ.) ได้ดำเนินการ ได้แก่ การประเมินคุณภาพสิ่งแวดล้อม การจัดทำมาตรฐานการท่องเที่ยว การจัดการด้านทรัพยากรรรมชาติและสิ่งแวดล้อม งานวิจัยด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการจัดการคุณภาพอากา
  2. ในระดับชุมชน : การใช้เทคโนโลยีด้านอวกาศในการติดตามและคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การเกิดและการควบคุมไฟป่า การติดตามและป้องกันการลักลอบตัดไม้และการล่าสัตว์ป่า หรือการบุกรุกทำลายป่า
  3. ในระดับจังหวัด : การจัดทำแนวเขตการจัดการพื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราชตามแนวทางขององค์การ UNESCO เพื่อการบริหารและการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับแผนการจัดการพื้นที่สงวนชีวมณฑลและเป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ
  4. ในระดับประเทศ ประกอบด้วย
    1. การจัดทำฐานข้อมูลด้านความหลากหลายทางชีวภาพและการกระจายของสิ่งมีชีวิตที่หายาก ใกล้สูญพันธุ์ หรือพบเฉพาะในพื้นที่ของสถานีฯ ที่เดียวในโลก เพื่อเป็นข้อมูลในการกำหนดมาตรการในการอนุรักษ์ การคุ้มครอง และการติดตามตรวจสอบ อย่างมีประสิทธิภาพ
    2. การใช้เทคโนโลยีของ GISTDA เพื่อการสร้างแนวทางการเรียนรู้แบบใหม่ เป็นแหล่งพัฒนาทักษะบุคลากร หรือพัฒนาอาชีพ ของนักเรียน นักศึกษา และราษฎรของประเทศ รวมทั้งร่วมพัฒนาและแลกเปลี่ยนบุคลากร องค์ความรู้ และเทคโนโลยีร่วมกับภาคอุดมศึกษา ผ่านหลักสูตร Degree กับ Non-degree เพื่อส่งเสริมความรู้ พัฒนาทักษะ เสริมสร้างขีดความสามารถในการพัฒนากำลังคน และต่อยอดการสร้างอาชีพ
  5. ในระดับสากล : การใช้เทคโนโลยีด้านภูมิสารสนเทศและอวกาศในการจัดทำฐานข้อมูลด้านภูมิสารสนเทศของสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราชที่มีความแม่นยำสูง เช่น การใช้ที่ดิน ลักษณะของระบบนิเวศ สภาพภูมิประเทศ สิ่งอำนวยความสะดวกและทรัพยากรต่างๆ เพื่อให้นักวิจัยทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่กำลังทำวิจัยในสถานีฯ กว่าปีละ 20 โครงการ ใช้เป็นข้อมูลประกอบการวิจัยที่สามารถใช้เป็นฐานข้อมูลอ้างอิงในงานวิจัยระดับชาติและนานาชาติ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ