อมาโด้ จับกระแสอีคอมเมิร์ซไทยโตต่อเนื่อง ลุยเปิดตลาดการค้าปลีกยุคใหม่ เปิดตัวช็อป Amado ออนไลน์บน LazMall แพลตฟอร์มห้างสรรพสินค้าเสมือนจริงที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ศูนย์รวมสินค้าแบรนด์แท้ 9 พ.ย. นี้ การันตรีจ่ายชดเชยหากสินค้าจัดส่งล่าช้ากว่ากำหนด เล็งผสานประสบการณ์ลูกค้าออฟไลน์เข้ากับออนไลน์ ให้เลือกชมทดลองสินค้าจากร้านค้าอมาโด้ 44 สาขาในห้างชั้นนำทั่วประเทศ แล้วช้อปสินค้าผ่านออนไลน์ภายหลัง ประเดิมจัดหนักด้วยโปรโมชั่นสุดยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี 11.11 พร้อมใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีในมาตรการช้อปดีมีคืน 30,000 บาท ตั้งเป้ารายได้จากอีคอมเมิร์ซ โต 30%ในปี 64
นายธนา ภูโชคอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ อมาโด้ (amado) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชั้นนำ เปิดเผยว่า อมาโด้ มีเป้าหมายเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งธุรกิจ E-Commerce ของประเทศไทยเติบโตในทุกๆ ปี จากพฤติกรรมของผู้บริโภคสมัยใหม่ที่เสพติดความสะดวกสบายจากการซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่น โดยมีวิกฤตโควิด-19 เป็นปัจจัยเร่งให้เกิดการเติบโตมากขึ้น จากข้อมูลสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย (Thai e-Commerce) ประเมินว่ามูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซในปีนี้น่าจะทะลุ 220,000 ล้านบาท เติบโต 35% ในขณะที่คนไทยใช้เวลากับโทรศัพท์มือถือเฉลี่ย 9 ชั่วโมงต่อวัน จัดเป็นอันดับที่ 5 ของโลก และแอปพลิเคชั่นที่คนไทยนิยมใช้งาน 5 อันดับแรก คือ โซเชียลมีเดีย, แชต, เพลง, วิดีโอเพื่อความบันเทิง, และช็อปปิ้งออนไลน์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ E-Commerce เติบโต โดยเฉพาะอีมาร์เกตเพลส (E-Marketplace)
ทั้งนี้ ล่าสุดอมาโด้ได้จับมือกับ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) เปิดตัว Amado บน Lazada ผู้นำอีคอมเมิร์ซแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้ LazMall แพลตฟอร์มห้างสรรพสินค้าเสมือนจริงบนโลกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุด อย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พฤศจิกายน นี้ เรียกได้ว่าเป็นร้านค้าปลีกยุคใหม่ (New retail) บนอีมาร์เกตเพลสของ Lazada โดย LazMall รวบรวมแบรนด์ดังกว่า 2,000 ร้าน รวมไปถึง Premium Beauty Mall ในประเทศไทย ประกอบด้วยแบรนด์ความงามระดับพรีเมียมมากกว่า 40 แบรนด์ ซึ่งแบรนด์อมาโด้ได้กลายเป็นแบรนด์วิตามินอาหารเสริมไทยที่เข้าไปเป็นหนึ่งใน Premium Beauty Mall คู่ค้าแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับ Lazada นอกจากนี้ LazMall ยังมีกลยุทธ์การสร้างแคมเปญร่วมกัน (Co-campaign) ของ LazMall ด้วยการจับคู่แบรนด์ต่าง ๆ เพื่อสร้างแคมเปญ รวมทั้งช่วยเพิ่มการรับรู้ต่อแบรนด์และเสริมประสิทธิภาพการขายได้มากขึ้น โดยการนำเอาเทคโนโลยีการจัดการข้อมูล และข้อมูลเชิงลึกด้านการตลาดมาใช้ในการเชื่อมต่อแบรนด์ต่าง ๆ เพื่อให้แต่ละแบรนด์มีโอกาสเข้าถึงตลาดใหม่ ๆ ได้มากขึ้น ในขณะที่ Lazada มีเป้าหมายเติมเต็มความต้องการในหมวดความสวยความงามในตลาดออนไลน์ของผู้บริโภคทั่วประเทศ รองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดในกลุ่มดังกล่าว
"การเปิดตัวครั้งนี้เป็นนอกจากจะเป็นการเพิ่มช่องทางจำหน่ายที่มีศักยภาพแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือของแบรนด์ในฐานะแบรนด์วิตามินและอาหารเสริมไทยในด้านคุณภาพและมาตรฐาน สร้างความน่าเชื่อถือในการซื้อสินค้า เนื่องจาก LazMall เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายเดียวในภูมิภาคนี้ที่มีค่าชดเชยหากส่งสินค้าล่าช้ากว่ากำหนด ด้วยการการันตีจัดส่งสินค้ารวดเร็วตรงต่อเวลาตามกำหนด เพื่อประสบการณ์ช้อปที่ดีของลูกค้า ซึ่งความแอ็กซ์คูลซีฟนี้เฉพาะที่ LazMall เท่านั้น"
อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการฉลองเปิดแบรนด์ Amado บน LazMall โปรโมชั่นสุดยิ่งใหญ่ 11.11ส่งท้ายปี 2563 จุใจกับสินค้าราคาพิเศษทั้งในช่วงเวลาปกติ และ 11.11 Flash Sale ซึ่งจะนำสินค้าราคาพิเศษช้อปง่ายราคาถูกออกมาขายในเวลาพิเศษ พร้อมแจก Voucher มูลค่าสูงสุด 300 บาท และ Cashback เมื่อซื้อสินค้าจากร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ Lazmall - Lazada รับเงินคืน 5% สูงสุด 100 บาท ผ่าน Lazada wallet ภายใน 15 วัน และสามารถขอใบกำกับภาษีจาก Lazada เพื่อใช้ยื่นสิทธิ์ลดหย่อนภาษีประจำปี 2563 ในมาตรการช้อปดีมีคืน ที่ลดหย่อนภาษีได้ 30,000บาท ติดตามโปรโมชั่นและผลิตภัณฑ์ได้ที่https://www.lazada.co.th/amado-official-store
ทั้งนี้ อมาโด้ บน LazMall เป็นการช่วยเพิ่มให้สัดส่วนรายได้ของอมาโด้ และเป็นการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งยังสามารถพัฒนาต่อยอดเป็นร้านค้าปลีกยุคใหม่ด้วยการผสานประสบการณ์ลูกค้าจากออฟไลน์เข้ากับออนไลน์ โดยให้ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จาก แอปพลิเคชั่น Lazada และรอรับสินค้าได้ที่บ้านอย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังสามารถทดลองสินค้าได้ที่หน้าร้าน ซึ่งอมาโด้ได้ขยายร้านค้าอมาโด้ (Kiosk) ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศกว่า 44 สาขา แล้วกลับไปสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ในภายหลังได้ด้วย อนึ่ง อมาโด้ตั้งเป้ารายได้จากอีคอมเมิร์ซ โต 30% ในปี 64