ไทยน้ำทิพย์ เดินหน้าปรับกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจเติบโตพร้อมพันธมิตรก้าวผ่านวิกฤตโควิด 19

พุธ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๐๒๐ ๐๘:๓๕

บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์โคคา-โคลา และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของโคคา-โคล่า ประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น แฟนต้า สไปรท์ มินิทเมด ชเวปส์ และน้ำดื่มน้ำทิพย์ ตอกย้ำความเป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ด้วยธุรกิจที่ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้อุตสาหกรรมโดยรวมชะลอตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ด้วยกลยุทธ์สำคัญที่ครอบคลุมทั้งด้าน ผลิตภัณฑ์ (Product) พันธมิตร (Partnership) และพนักงาน (People) โดยเป็นผลมาจากความสำเร็จของเครื่องดื่มสูตรไม่มีน้ำตาล และความมุ่งมั่นที่จะผลักดันการเติบโตร่วมกันไปพร้อมกับทุกฝ่าย แม้ในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความท้าทาย

ผลิตภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโอของโคคา-โคล่า ที่มีจำหน่ายในประเทศไทยมีส่วนสำคัญต่อการเติบโตของไทยน้ำทิพย์ที่ยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเซกเมนต์เครื่องดื่มอัดลม ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 55.2 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้น 0.6 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว โดยสำหรับตลาดน้ำดำ ไทยน้ำทิพย์สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดได้เพิ่มขึ้น 0.6 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ 48.2 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ตลาดเครื่องดื่มไม่มีน้ำตาลก็ขยายตัวถึง 15.8 เปอร์เซ็นต์ โดยมี โค้ก สูตรไม่มีน้ำตาล เป็นผู้นำในตลาด ด้วยส่วนแบ่ง 58.5 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้น 2.5 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

มร.อินเยส คอร์ทเฮ้าส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด กล่าวว่า "ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 60 ปี ไทยน้ำทิพย์มุ่งมั่นสร้างการเติบโตทางธุรกิจให้กับคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ พนักงาน และเศรษฐกิจไทยไปพร้อมๆ กัน ขณะที่โรคอุบัติใหม่ซึ่งแพร่ระบาดไปทั่วโลกนี้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วน ส่งผลให้ธุรกิจทั้งหลายจำเป็นต้องพัฒนาเพื่อก้าวต่อไปในช่วงเวลาท้าทายเช่นนี้ ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องให้ความสำคัญกับการบริโภค 'ที่บ้าน' เพิ่มเติมจาก 'การรับประทานอาหารนอกบ้าน' มากขึ้นกว่าที่เคย ทั้งในการสื่อสารและกิจกรรมทางการตลาดทั้งหมด โดยปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หลักด้านผลิตภัณฑ์ การให้ความช่วยเหลือคู่ค้าและพันธมิตร ตลอดจนการสร้างความพร้อมให้กับพนักงาน"

ปรับเปลี่ยนการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับเทรนด์การบริโภค 'ที่บ้าน'

แม้ว่าภาพรวมธุรกิจของไทยน้ำทิพย์ในช่วงต้นปี 2563 เป็นไปในทิศทางบวก เนื่องจากปริมาณความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ซึ่งมีความรุนแรงมากขึ้นในเดือนมีนาคม ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ถูกจำกัดการเดินทางและต้องอยู่กับบ้าน ไทยน้ำทิพย์จึงหันมาให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ไซส์ใหญ่ขึ้น เช่นเครื่องดื่มขนาด 1.5 ลิตร ที่เหมาะสำหรับการบริโภคในครัวเรือน โดยบริษัทฯ ได้เติมเต็มทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโอ และการส่งเสริมการขาย ครอบคลุมทั้งในการสื่อสาร และการดำเนินการ เพื่อกระตุ้นการบริโภค 'ที่บ้าน' เพิ่มเติมจากการบริโภคในร้านอาหารนอกบ้าน และยังเป็นการชดเชยสัดส่วนการบริโภคของนักท่องเที่ยวที่หายไป

นอกจากนี้ ไทยน้ำทิพย์ยังต่อยอดความสำเร็จของผลิตภัณฑ์สูตรไม่มีน้ำตาล ด้วย "โค้ก สูตรไม่มีน้ำตาล กลิ่นออร์เรนจ์" เพื่อสร้างสีสันให้กับตลาดน้ำอัดลมในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตอบรับกับเทรนด์สุขภาพที่ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทยเป็นอย่างดี

ช่วยเหลือคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจให้ก้าวผ่านช่วงเวลายากลำบากไปด้วยกัน

ไทยน้ำทิพย์ให้ความสำคัญกับคู่ค้าทุกรายเสมือนพันธมิตร โดยทำงานร่วมกับคู่ค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยในการปรับตัวทางธุรกิจให้เท่าทันสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งกลยุทธ์การปรับเปลี่ยนการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์โดยให้ความสำคัญกับการบริโภคที่บ้าน ถูกนำมาปรับใช้กับคู่ค้าทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น ร้านค้าปลีกครบวงจรขนาดใหญ่ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าส่ง ร้านค้าเงินสดและบริการตนเอง ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม และร้านอาหาร โดยส่งเสริมการขายบรรจุภัณฑ์พร้อมดื่มขนาดใหญ่ ทั้งในรูปแบบขวด PET และกระป๋องอะลูมิเนียม โดยเฉพาะร้านอาหารให้บริการด่วน

ความช่วยเหลือดังกล่าวยังครอบคลุมถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ เช่น ร้านค้าทางอ้อม ซึ่งซื้อผลิตภัณฑ์จากร้านค้าส่ง หรือร้านค้าเงินสดที่ต้องขนส่งสินค้าเอง ด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับการส่งเสริมการขาย และเทคนิคการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขาย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายในท้ายที่สุด

นอกจากนี้ หลังการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ในเดือนพฤษภาคม ไทยน้ำทิพย์ได้ริเริ่มโครงการ "ความสุข" มอบน้ำดื่มน้ำทิพย์ และโค้ก สูตรไม่มีน้ำตาล กว่า 7 ล้านขวดและกระป๋อง รวมมูลค่ากว่า 25 ล้านบาท ให้แก่ร้านอาหารทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ที่เป็นคู่ค้าร่วม 190,000 แห่งฟรี เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคู่ค้าฟื้นตัวและสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้อย่างรวดเร็วอีกครั้งเมื่อสถานการณ์โควิด 19 คลี่คลาย

สร้างความพร้อมให้กับพนักงานโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

เพราะพนักงานคือหัวใจสำคัญต่อความสำเร็จ ตลอดช่วงเวลาแห่งความท้าทายนี้ ไทยน้ำทิพย์ได้เตรียมความพร้อมให้กับพนักงานทั้ง 7,500 คน โดยจัดหาและแจกจ่ายชุดอุปกรณ์ป้องกันโควิด 19 เช่น หน้ากากผ้า และเจลแอลกอฮอล์ ซึ่งมีปัญหาขาดแคลนอยู่ช่วงหนึ่ง ให้กับพนักงานอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ บริษัทฯ มีนโยบายไม่ลดเงินเดือน และไม่เลิกจ้างพนักงานทุกระดับ แต่ให้โอกาสในการสับเปลี่ยนหน้าที่อย่างเหมาะสมในช่วงล็อคดาวน์แทน

"เราจะยังคงเดินหน้ากลยุทธ์ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ พันธมิตร และพนักงานไปตลอดทั้งปี เพื่อให้มั่นใจว่าทั้งคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ พนักงานของเรา รวมทั้งอุตสาหกรรมโดยรวมจะสามารถเติบโตไปได้พร้อมกันอย่างมั่นคง ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในประเทศไทย เราจะทำงานอย่างหนักทุกวิถีทางที่สามารถทำได้ เพื่อร่วมสร้างประโยชน์ให้กับสังคม" มร. อินเยส เสริม

คงไม่มีใครคาดเดาได้ว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จะสิ้นสุดเมื่อใด แต่หากประเทศขับเคลื่อนไปข้างพร้อมกัน ด้วยความร่วมมือจากทุกฝ่าย รวมถึงภาคเอกชนที่มีศักยภาพและทรัพยากร เชื่อว่าจะสามารถลดผลกระทบ และสามารถช่วยให้ทั้งภาคธุรกิจและประเทศไทยในภาพรวมฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด

ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของเดอะ โคคา-โคล่า คอมปานี เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่าในประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด

กลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย ประกอบด้วย บริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัดในฐานะเจ้าของแบรนด์ รับผิดชอบในกิจกรรมการตลาด และสองบริษัทพันธมิตรผู้ผลิตและจำหน่าย บจ. ไทยน้ำทิพย์ รับผิดชอบ 63 จังหวัด ทั่วประเทศ และ บมจ. หาดทิพย์ รับผิดชอบใน 14 จังหวัดภาคใต้

กลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทยเป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ทั่วประเทศ นอกเหนือจากแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกอย่าง โคคา-โคล่า แล้วผลิตภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโอของกลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย ยังประกอบไปด้วย โค้ก สูตรไม่มีน้ำตาล, โค้ก ไลท์, แฟนต้า, สไปร์ท, ชเวปส์, เอแอนด์ดับบลิว รูทเบียร์ รวมถึงน้ำส้มมินิทเมด สแปลช, มินิทเมด พัลพิ, น้ำดื่มน้ำทิพย์ และน้ำแร่บอน อควา

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ ดร.เอ้ สุดยอดผู้นำด้าน AI เชื่อมั่น รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร จะปฏิวัติการแพทย์ไทย ด้วย AI พร้อมความตั้งใจอันแน่วแน่
๐๙:๐๓ รมว.นฤมล ผลักดันกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
๐๙:๑๖ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนร่วมบริจาคโลหิต 26 ธันวาคมนี้ ชั้น 7 โซน A เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต
๐๙:๔๗ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเต็ม!! ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน
๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย