ดร. ณพพงศ์ ธีระวร ประธานสมาพันธ์SMEไทย กล่าวว่า "การเปิดบ้านSMEในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเครือข่ายของผู้ประกอบการSMEให้เกิดกลุ่มก้อน เพื่อจะเชื่อมโยงผู้ประกอบการไปสู่ภาคธุรกิจ ภาครัฐ ภาคการผลิต ภาคการเงินให้เกิดสภาพคล่องให้ได้มากที่สุด และต้องการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการด้วยกัน การสร้างเครือข่ายถือเป็นหนึ่งในพันธกิจที่สำคัญที่จะต้องเร่งดำเนินการ นอกจากนั้นยังเปิดรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีฝีมือ และมีจิตอาสา เข้ามาร่วมคิดและทำงานให้แก่พี่น้องSMEในมิติต่าง ๆ"
การจัดงานในครั้งนี้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมงาน 150 ท่าน รวมกว่า 150 กิจการ พบว่าผู้ประกอบการส่วนมากต้องการความรู้ในการทำธุรกิจ ทำให้ธุรกิจที่ทำอยู่เติบโตแบบก้าวกระโดด การปรับมายเซ็ต คำแนะนำในการเข้าถึงเงินทุน และการหาต้นทุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ต้องการความรู้ทางด้านเทคโนโลยี ไอที และอื่นๆอีกหลากแง่มุม การได้รับทราบความต้องการของผู้ประกอบการในครั้งนี้ ทำให้ทางสมาพันธ์ ฯ ต้องเร่งจัดทำหลักสูตร พร้อมทั้งสรรหาผู้ชำนาญด้านต่าง ๆ แหล่งเงินทุน เครือข่ายอื่น ๆ
ด้านดร. กฤชนันท์ อัยยปัญญา เลขาธิการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึง บทบาทของกระทรวงอุตสาหกรรมต่อผู้ประกอบการSME ว่า "กระทรวง ฯ ยังคงมุ่งเน้นให้ผู้ประกอบการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมในการผลิตสินค้า และยังเป็นหน่วยหนึ่งที่แข็งแกร่งในการเสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการให้มีขีดความสามารถที่สูงขึ้น ทางกระทรวง ฯ ยังได้จัดให้มีศูนย์ข้อมูล การจัดงานเพื่อกระตุ้นยอดขาย อย่างไรก็ตาม ตลอดปี 2563 โลกและประเทศไทยเผชิญปัญหาที่ไม่เคยมีใครพบมาก่อน คือการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้ภาคการผลิตบางภาคหยุดชะงัก รายได้หายได้ หลังจากการเปิดบ้านสมาพันธ์SMEไทย จะนำสิ่งที่ได้รับทราบว่าเป็นอุปสรรคในการทำงานไปเร่งแก้ไข และหวังให้สถานการณ์ของSMEไทยรีบกลับมาเหมือนเดิม"