นายซุง ชง ทอย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SFT หนึ่งในผู้นำการให้บริการ Labeling Solutions แบบครบวงจร ด้วยผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูปในภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยถึงภาพรวมการดำเนินงานในไตรมาส 3/2563 (กรกฎาคม-กันยายน) บริษัทฯ ทำรายได้รวม 167.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.09% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิ 21.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.64% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีปัจจัยจากการที่บริษัทฯ มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการต้นทุนการผลิต จึงเอื้อต่อการทำกำไรขั้นต้นให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาส 3/2563 เติบโตได้ดีกว่าแผน และทำให้ภาพรวมการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กันยายน) มีกำไรสุทธิ 56.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยจากขีดความสามารถและศักยภาพการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในการผลิตฟิล์มหดรัดรูปด้วยระบบการพิมพ์แบบกราเวียร์และดิจิทัลของ SFT สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะฐานลูกค้าหลักรายใหญ่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ที่เริ่มมีการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศเพิ่มเติม หลังมีการปลดล๊อกด้านธุรกิจการส่งออกสินค้า หลังจากที่สถานการณ์ไวรัสโคโรนาหลายแห่งทั่วโลกคลี่คลาย ประกอบกับเร่งทำกิจกรรมการตลาดส่งเสริมการขายสินค้าภายในประเทศ ทั้งการออกสินค้าใหม่ และการจัดโปรโมชั่น ลูกค้าหลักหลายรายจึงมีความต้องการใช้ฟิล์มหดรัดรูปเพื่อนำใช้สร้างภาพลักษณ์ให้แก่แบรนด์สินค้า ซึ่งบริษัทฯ ได้เร่งการผลิตฟิล์มหดรัดรูปเพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้าอย่างเต็มความสามารถ
สำหรับไตรมาสสุดท้ายปีนี้ บริษัทฯ มีแผนเร่งขยายฐานลูกค้ารายใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม ซึ่งบริษัทฯคาดการณ์ว่าอัตรากำลังการผลิตจากการใช้เครื่องจักรเพื่อการผลิตฉลากฟิล์มหดรัดรูปในไตรมาสที่ 3/2563 ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 67% จะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 70% ในไตรมาสที่ 4/2563 จากออเดอร์ของทั้งลูกค้าปัจจุบันและใหม่และลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เพื่อให้บริษัทฯสามารถรองรับการขยายกำลังการผลิตฟิล์มหดรัดรูปเพื่อรองรับออเดอร์ลูกค้าในปี 2564 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2563 จึงได้มีการอนุมัติให้มีการลงทุนซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติม เพื่อขยายกำลังการผลิตให้สามารถรองรับความต้องการของลูกค้า ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพได้ตามเป้าหมาย โดย SFT พร้อมที่จะนำศักยภาพการผลิตสินค้าเข้าไปช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งลูกค้าปัจจุบันและลูกค้ารายใหม่อย่างเต็มที่ และมั่นใจว่าผลงานในไตรมาส 4 ปีนี้จะสามารถทำนิวไฮและสนับสนุนผลงานทั้งปีของ SFT เติบโตอย่างแน่นอน