นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (Mr.Komsorn Prakobphol, Head of Economic Strategy Unit, TISCO Economic Strategy Unit : TISCO ESU) เปิดเผยว่า ในปี 2563 ที่กำลังจะผ่านไปเป็นปีของหุ้นเทคโนโลยีอย่างแท้จริง เพราะถึงแม้เศรษฐกิจโลกจะหดตัวอย่างรุนแรงจากผลกระทบของ COVID-19 แต่ราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี (Tech) กลับพุ่งขึ้นอย่างมาก โดยนับตั้งแต่ต้นปีหุ้นโทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Amazon, Amazon และ Netflix ได้ปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 50% ในขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ (S&P500) ปรับตัวขึ้นมาเพียง 10% ซึ่งหมายความว่าในปีนี้หุ้นส่วนใหญ่ในตลาดแทบไม่ปรับตัวขึ้นเลยในปีนี้
"คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริงจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยหุ้นเหล่านี้นอกจากจะไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบจาก COVID-19 แล้ว ยังได้อานิสงส์จากการเร่งให้เกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคให้หันมาใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันและการทำงานมากขึ้น ทั้งการซื้อขายออนไลน์ บริการความบันเทิงผ่านเทคโนโลยีสตรีมมิ่ง รวมถึงเทคโนโลยีที่ช่วยในการทำงานทางไกลแบบ Work from Home ซึ่งทำให้กิจการเหล่านี้มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นในระยะยาว" นายคมศรกล่าว
ทั้งนี้ นอกการเปลี่ยพฤติกรรมของผู้บริโภคซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการผลักดันราคาหุ้นแล้ว อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงอย่างรวดเร็วท่ามกลางการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก ก็เป็นอีกปัจจัยบวกต่อราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอีกด้วย เนื่องจากตามหลักการการคำนวณมูลค่าโดยวิธีการคิดลดกระแสเงินสด (Discounted Cash Flow (DCF) ทำให้การลดลงของดอกเบี้ยส่งผลบวกต่อหุ้นที่มีการเติบโตของกระแสเงินสดในอนาคตสูง เนื่องจากอัตราคิดลดที่ลดลงจะส่งผลให้กระแสเงินสดในอนาคตมีมูลค่าสูงขึ้น
ซึ่งหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีเป็นหุ้นที่นักลงทุนมองถึงการเติบโตของกำไรในระยะยาว ไม่ถูกกระทบมากนักจากภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ดังนั้น การลดลงของดอกเบี้ยทำให้มูลค่าปัจจุบัน (Present Value) ของกระแสเงินสดในอนาคตเพิ่มขึ้น จึงทำให้หุ้นในกลุ่มนี้ มีราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังจะเห็นได้จากมูลค่า (Valuation) ของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับในอดีต ในขณะที่หุ้นกลุ่มอื่นๆ กลับเทรดที่ Valuation ที่ต่ำลง
อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนที่จะเปลี่ยนไปในปีหน้า อาจทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีไม่ได้เป็นผู้นำตลาดขึ้นอีกต่อไป โดยศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้มองว่าในปีหน้า อัตราดอกเบี้ย (Bond yield) ในตลาดจะกลับมาเป็นขาขึ้น ตามการฟื้นตัวของตัวเลขเศรษฐกิจ และความชัดเจนจากการเลือกตั้งสหรัฐฯ รวมทั้งข่าวดีจากการค้นพบวัคซีนป้องกัน COVID -19 ได้สำเร็จ ซึ่งจะเริ่มแจกจ่ายในปีหน้า
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยระยะยาวที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นวัฏจักร (Cyclical Stocks) ที่ราคาเคลื่อนไหวตามวัฏจักรเศรษฐกิจ เช่น กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม (Industrials), สินค้าฟุ่มเฟือย (Consumer Discretionary) และสินค้าวัสดุ (Materials) นอกจากนี้ Valuation ของหุ้นเหล่านี้ที่ยังถูกกว่าเมื่อเทียบกับตลาดโดยรวม ก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนให้หุ้นเหล่านี้กลับมาให้ผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก COVID-19 (Tech, Healthcare) และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยต่ำ (Consumer staples และ Utilities) ที่นำตลาดขึ้นในปีนี้