รมช.มนัญญา ได้กล่าวมอบนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในฐานะเป็นประธานเปิดงานว่า ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีแผนงานนโยบายในการขับเคลื่อนพัฒนาการเกษตรของประเทศ ส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในส่วนของยุทธศาสตร์ที่ 1 การสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกร เพื่อสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือระหว่างวิสาหกิจชุมชนและสหกรณ์ รวมถึงเชื่อมโยงไปถึงผู้ประกอบการ ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาด้านการผลิต และด้านการตลาดของสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ รวมทั้งสนับสนุนการขยายเครือข่ายธุรกิจของวิสาหกิจชุมชนและสหกรณ์ เพื่อยกระดับการพัฒนาเกษตรกรไปสู่การเป็นผู้ประกอบอาชีพการเกษตรที่มีความเข้มแข็ง ตลอดจนระบบกลไกสหกรณ์ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาให้เป็นกลไกการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของสังคม เป็นกลไกในการดูแลให้เกษตรกรได้รับประโยชน์จากการรวมกลุ่มและการเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรได้อย่างแท้จริง
จากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบป้ายเงินอุดหนุนโครงการพัฒนาศักยภาพกลุ่มอาชีพในสังกัดสหกรณ์ จำนวน 3 กลุ่มๆ ละ 100,000 บาท ได้แก่ กลุ่มบ้านสวนลูกแชมป์ สังกัดสหกรณ์การเมืองอุทัยธานี จำกัด นำไปพัฒนาการแปรรูปปลาร้าทรงเครื่องโรยข้าวให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน สามารถแข่งขันในตลาดโมเดิร์นเทรด และจำหน่ายทาง Digital Marketing กลุ่มสายใยเกษตรกร สังกัดสหกรณ์การเมืองอุทัยธานี จำกัด นำไปพัฒนาศักยภาพการแปรรูปผักอินทรีย์ให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้มีความหลากหลาย สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่รักสุขภาพ และกลุ่มผู้ผลิตและแปรรูปโกโก้ สังกัด สหกรณ์การเกษตรห้วยคต จำกัด ต้องการพัฒนาการแปรรูปให้มีความหลากหลาย สะดวกแก่การบริโภค เป็นการยกระดับการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพ ได้มาตรฐานสามารถแข่งขันในตลาดได้ และได้เยี่ยมชมนิทรรศการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร้านค้าของกลุ่มอาชีพและผลิตภัณฑ์ของลูกหลานเกษตรกรกลับบ้านที่มาร่วมจำหน่ายสินค้า พร้อมทั้งมอบพันธุ์ปลา จำนวน 1,000 ถุง และข้าวสาร จำนวน 1,000 ถุงๆ ละ 2 กิโลกรัม ให้กับเกษตรกรที่มาร่วมงานด้วย
ทั้งนี้ โครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร เป็นโครงการที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ บูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ลูกหลานสมาชิกสหกรณ์ หรือบุคคลทั่วไปกลับมาทำอาชีพเกษตรกรรมในบ้านเกิดของตนเอง และให้สหกรณ์การเกษตรเป็นศูนย์กลางในการสร้างอาชีพทางการเกษตรที่มั่นคง และมีการบริหารจัดการครบวงจรตั้งแต่การผลิตจนถึงการจัดหาช่องทางการจำหน่าย รวมทั้งสามารถยกระดับสหกรณ์ให้เป็นที่พึ่งของสมาชิกอย่างแท้จริง โครงการนี้มีระยะเวลาในการดำเนินโครงการ 3 ปี (ปี 2563 - 2565) มีเป้าหมายเพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีใจรักในอาชีพเกษตรกรและต้องการกลับคืนสู่บ้านเกิดเพื่อสานต่ออาชีพของครอบครัว และมีเวลาอยู่ใกล้ชิดดูแลครอบครัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการนี้ทั่วประเทศ จำนวน 7,559 ราย โดยจังหวัดอุทัยธานีมีเกษตรกรลูกหลานสมาชิกสหกรณ์ หรือบุคคลทั่วไป สมัครเข้าร่วมโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพเกษตรกรรม จังหวัดอุทัยธานี จำนวน 76 ราย