ก.แรงงาน จับมือ ทูตสวิส เตรียมแรงงานรับระบบอัตโนมัติ ในพื้นที่ EEC

พฤหัส ๒๖ พฤศจิกายน ๒๐๒๐ ๐๙:๓๔

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานร่วมกับเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย เปิดกิจกรรมสาธิตการทำงานระบบอัตโนมัติด้วยเครื่องมือวัดและหุ่นยนต์ ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ-เอกชน และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 ศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดกิจกรรมสาธิตการทำงานระบบอัตโนมัติด้วยเครื่องมือวัดและหุ่นยนต์ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนด้านการพัฒนาฝีมือแรงงาน และเพื่อส่งเสริมสัมพันธไมตรีอันดีระหว่าง 2 ประเทศ โดยมี H.E. Mrs. Helene Budliger Artieda เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย Mr. Pierre Hagman หัวหน้าคณะผู้แทนประจำสถานเอกอัคราชทูตฯ Mr. Brumo Odermatt-Magg ประธานหอการค้าสวิส-ไทย อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ผู้แทนจากบริษัท Max Value Technology จำกัด ผู้แทนบริษัท Unical Works จำกัด และผู้แทนบริษัทในเครือสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย เข้าร่วมงานดังกล่าว ณ สถาบันพัฒนาบุคลากรสาขาเทคโนโลยีการผลิตอัตโนมัติและหุ่นยนต์ จังหวัดชลบุรี

ศาสตราจารย์ นฤมล กล่าวว่า เทคโนโลยีการผลิตในยุคปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อุตสาหกรรมและสถานประกอบกิจการในประเทศไทย มีความจำเป็นจะต้องเร่งปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตให้ทันสมัย รวดเร็ว แม่นยำและมีประสิทธิภาพสูง เพื่อให้สินค้าและบริการมีคุณภาพที่ดีมีความน่าเชื่อถือ และเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะยกระดับการผลิตของผู้ประกอบการไทยให้มีความทันสมัยตอบโจทย์ของอุตสาหกรรม 4.0 และนโยบายของรัฐ โดยเฉพาะการพัฒนาพื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก EEC ที่เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบัน

รมช. แรงงาน กล่าวต่อว่า กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ในฐานะหน่วยงานหลักของประเทศด้านการพัฒนาทักษะฝีมือ และการรับรองมาตรฐานฝีมือให้แก่กำลังแรงงานของประเทศ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาขาดแคลนแรงงานและการยกระดับทักษะฝีมือแรงงานด้านระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ในพื้นที่ EEC จึงได้จัดตั้งสถาบันพัฒนาบุคลากรสาขาเทคโนโลยีการผลิตอัตโนมัติและหุ่นยนต์ (สทอ.) หรือ MARA ให้เป็นหน่วยงานหลัก เพื่อขับเคลื่อนภารกิจการพัฒนาฝีมือแรงงาน ทดสอบฝีมือแรงงาน พัฒนาหัวหน้างานและครูฝึกในโรงงาน สร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อพัฒนากำลังคนด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยตามเป้าหมายที่วางไว้

การดำเนินงานในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือไตรภาคีระหว่าง สทอ. กับบริษัท Sylvac SA จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องมือวัดละเอียดจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ บริษัท Max Value Technology จำกัด (ตัวแทนบริษัท) และบริษัท Unical Works จำกัด (ร่วมดำเนินธุรกิจกับบริษัท Sylvac SA) โดยบริษัท Sylvac SA จำกัด ให้การสนับสนุนความร่วมมือดังกล่าว ด้วยการให้ยืมเครื่องสแกน 2 มิติ เป็นเครื่องวัดขนาดชิ้นงานด้วยแสง คุณภาพสูง ไว้สำหรับฝึกอบรมแก่แรงงานในพื้นที่ EEC นอกจากนี้ ยังร่วมกันจัดทำหลักสูตรการใช้เครื่องมือวัด ตรวจสอบชิ้นงานด้วยระบบอัตโนมัติและการลำเลียงแบบ 4.0 เพื่อนำมาใช้ฝึกอบรมอีกด้วย

"กิจกรรมในวันนี้จะเป็นอีกก้าวสำคัญในการเสริมสร้างทักษะให้แก่กำลังแรงงานในพื้นที่ EEC ซึ่งนอกจากจะมีส่วนช่วยเพิ่มผลิตภาพในการทำงานให้แก่สถานประกอบกิจการแล้ว ทักษะที่แรงงานได้รับก็จะเป็นทุนมนุษย์ในการใช้ต่อยอดสำหรับการทำงานและเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตต่อไป รวมถึงความร่วมมือกันระหว่างทั้งสองประเทศในอนาคต" รมช.แรงงาน กล่าวในท้ายสุด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๘:๐๖ นักศึกษาดิจิทัลมีเดีย SPU คว้า 3 รางวัลกราฟิกดีไซน์ระดับประเทศ ในงาน Thailand Design Creator Competition
๑๘:๑๗ โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย โฮเทล แอนด์คอนเวนชั่น รับมอบตราสัญลักษณ์ มาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย (TMVS) ในงาน MICE Standards Day
๑๘:๐๑ ดีป้า เปิดฉาก depa ESPORTS ACCELERATOR PROGRAM ติวเข้ม 10 ทีมน้องใหม่ ก่อนปล่อยของในกิจกรรม Demo Day Business
๑๘:๕๖ แคนนอนจัดสัมมนาใหญ่ THINK BIG ชูเทรนด์ดิจิทัลและโซลูชันอัจฉริยะ หนุนองค์กรเติบโตยั่งยืน
๑๘:๑๒ เปิดรับทุน ปลูกต้นกล้าพยาบาล 3 สถาบัน ประจำปีการศึกษา 2568 รอบสุดท้าย
๑๘:๕๒ ปรับกลยุทธ์โฆษณาปี 2568 ที่นักการตลาดต้องรู้ ด้วย Blockdit for Business
๑๘:๒๔ เอสไอจีจับมืออำพลฟูดส์ เปิดตัวนวัตกรรมขวดกระดาษครั้งแรกของไทย
๑๘:๓๕ ม.หอการค้าไทย ผนึกพันธมิตรชั้นนำจัดแข่งบาสเกตบอลเพื่อวัยรุ่น 3?3 UTCC Championship 2025 ชิงถ้วยและเงินรางวัล 3
๑๘:๐๕ เฮงลิสซิ่ง เดินหน้าขยายสาขา 32 แห่ง ปูพรมภาคเหนือ-กลาง-ตะวันตก พร้อมให้บริการสินเชื่อ 2 พฤษภาคม 2568
๑๘:๐๑ วช. ขับเคลื่อนงานวิจัยเชิงพื้นที่ 'ประเทศไทยปลอดภัยจาก PM2.5' มุ่งลดฝุ่นพิษภาคเหนืออย่างยั่งยืน