"มท.3" ลุยขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน เดินหน้าพัฒนาชายแดนบุ่งคล้า-แลนด์มาร์คริมโขง ยกระดับคุณภาพชีวิตชาว จ.บึงกาฬ

จันทร์ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๐๒๐ ๐๙:๓๐

นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) ลงพื้นที่รับฟังปัญหา อุปสรรค มอบนโยบายในการดำเนินงานโครงการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด จังหวัดบึงกาฬ โดยเน้นความต้องการและการมีส่วนร่วมของประชาชน แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเร่งด่วน เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมและรวดเร็วทันเหตุการณ์ พร้อมเดินหน้า "โครงการพัฒนาพื้นที่ชุมชนชายแดนบุ่งคล้า อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ" "โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง บ้านบึงกาฬใต้" และ "โครงการพัฒนาตามผังเมืองรวมเมืองบึงกาฬ อำเภอบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ (แลนด์มาร์ค)" ของกรมโยธาธิการและผังเมือง ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของพื้นที่ และยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในจังหวัดบึงกาฬ

นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า หลังจากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันและมอบหมายให้รับผิดชอบติดตามการดำเนินงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด จังหวัดสกลนคร นครพนม และบึงกาฬซึ่งวันนี้เป็นการประชุมคณะกรรมการฯ จังหวัดบึงกาฬ เพื่อติดตาม รับฟังปัญหา ความต้องการและบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจังหวัดบึงกาฬ ทั้งนี้จังหวัดบึงกาฬ เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยพื้นที่ชุมชนชายแดนบุ่งคล้า สามารถพัฒนาระบบโลจิสติกส์ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมลุ่มแม่น้ำโขง อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปการค้า การบริการและการท่องเที่ยวกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งนโยบายในการเชื่อมโยงเมืองชายแดนของประชาคมอาเซียน

ดังนั้น จึงกำชับให้กรมโยธาธิการและผังเมือง เร่งดำเนิน "โครงการพัฒนาพื้นที่ชุมชนชายแดนบุ่งคล้า อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ" เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ให้สามารถสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเชิงพื้นที่ และเป็นการเชื่อมโยงกับเมืองท่าพระบาท สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว พร้อมยกระดับชุมชนชายแดนบุ่งคล้าให้มีมาตรฐานรองรับการเชื่อมโยงในระดับสากล นอกจากนี้ยังมี "โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง บ้านบึงกาฬใต้" และ การก่อสร้าง "แลนด์มาร์ค" ของจังหวัดบึงกาฬภายใต้ "โครงการพัฒนาตามผังเมืองรวมเมืองบึงกาฬ อำเภอบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ" บนพื้นที่ประมาณ 500 ไร่ บริเวณริมถนนข้าวเม่า อำเภอเมือง ซึ่งจะทำให้จังหวัดบึงกาฬ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศและเป็นแหล่งการค้าการลงทุนที่เชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาคอินโดจีน

ด้าน นายสุวพงษ์ ภูนาคพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนและพัฒนาตามผังเมืองกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า กรมฯ ดำเนินโครงการพัฒนาพื้นที่ชุมชนชายแดนบุ่งคล้า อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ ด้วยการปรับปรุงพื้นที่ริมแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นการต่อยอดจากโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง (เดิม) ประกอบด้วยงานปรับปรุงถนนและระบบระบายน้ำ งานระบบไฟฟ้า เพื่อรองรับปริมาณการจราจรและสอดคล้องกับกิจกรรมของพื้นที่ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งบริเวณปากห้วยสหาย พร้อมทางเดินเท้าและราวกันตก งานปรับปรุงทางเดินและภูมิทัศน์ริมแม่น้ำโขง ทางจักรยาน ลานกิจกรรม ศาลาพักผ่อนชมทัศนียภาพริมโขงตลอดแนวเส้นทาง จุดชมวิวพร้อมอาคารอเนกประสงค์ สะพานข้ามปากห้วยสหาย ทั้งนี้เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเป็นชุมชนเมืองการค้าชายแดนที่ได้มาตรฐานในระดับสากล สนับสนุนบทบาทการท่องเที่ยวจังหวัดบึงกาฬให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ซึ่งจะนำไปสู่การกระจายรายได้สร้างฐานรากเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของชุมชนให้ดีขึ้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดตั้งงบประมาณ ปี 2564 นอกจากนี้ เพื่อให้เกิดการบูรณาการการพัฒนาพื้นที่อย่างเป็นระบบและยั่งยืนในบริเวณพื้นที่ก่อสร้างแลนด์มาร์ค อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงมีนโยบายให้กรมฯ ดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง บริเวณบ้านบึงกาฬใต้ ความยาว 2,985 เมตร โดยแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 ปีงบประมาณ ในปีงบประมาณ 2563 ความยาว 1,235 เมตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างเริ่มดำเนินการก่อสร้าง และได้รับงบประมาณก่อสร้างต่อเนื่องปี 2564 ในส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จบรรจบเข้ากับเขื่อนเดิม

นายวิษณุ อยู่ดี ผู้อำนวยการสำนักสถาปัตยกรรม กรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เล็งเห็นศักยภาพของพื้นที่ จึงมีนโยบายให้กรมฯ ดำเนินการพัฒนาพื้นที่หลังเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง บริเวณบ้านบึงกาฬใต้ โดยการออกแบบก่อสร้าง "แลนด์มาร์ค" ของจังหวัดบึงกาฬ ภายใต้ "โครงการพัฒนาตามผังเมืองรวมเมืองบึงกาฬ อำเภอบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ" ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการศึกษาออกแบบโครงการเบื้องต้น โดยมีแนวคิดในการออกแบบและองค์ประกอบ ดังนี้

  1. สร้างอัตลักษณ์ของจังหวัดบึงกาฬความเป็นพี่น้อง ไทย-ลาว (LANDMARK) เป็นลานพลาซ่าขนาดใหญ่ เชื่อมโยงแนวแกนของเมืองมุ่งสู่พื้นที่ริมแม่น้ำโขง
  2. 2.รักษาระบบนิเวศของพื้นที่เดิม (PARK) ให้มนุษย์และธรรมชาติอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลและเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ประกอบด้วย สถานที่ออกกำลังกาย ลู่วิ่ง และทางจักรยาน
  3. สร้างพื้นที่กักเก็บน้ำ (LAKE) บึงและสวนสาธารณะให้กับเทศบาลเมืองบึงกาฬ เพื่อระบบสาธารณูปโภคที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน ใช้กักเก็บน้ำ และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
  4. สร้างพื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อเศรษฐกิจชุมชน (ECONOMIC AREA) เช่น พื้นที่เช่า ตลาดถนนคนเดิน ลานคนเมืองสำหรับกิจกรรมค้าขาย เพื่อหารายได้ไว้ใช้ในการบำรุงรักษาพื้นที่สวนสาธารณะและสร้างรายได้ให้คนในชุมชน
  5. ระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเขื่อนป้องกันตลิ่ง โดยคาดว่าจะเริ่มโครงการของบประมาณก่อสร้างประมาณ
    ปี 2565 หากแล้วเสร็จจะเกิดประโยชน์สูงสุดกับจังหวัดบึงกาฬ ภาคอีสานตอนบน และอาจจะทำให้จังหวัดบึงกาฬเป็นเมืองต้นแบบให้กับจังหวัดอื่นๆ ในการพัฒนาให้เป็นเมืองน่าอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนตลอดไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ