นางสาวพรพิวรรณ นิรมลเฉิดฉาย กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ็พพลาย ดีบี จำกัด (มหาชน) หรือ ADB ผู้นำการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กาวและยาแนว และผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกคอมปาวด์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ และการรับจ้างผลิต (OEM) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.05556 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 33,336,000 ล้านบาท โดยเป็นการจ่ายปันผลระหว่างกาลจากกำไรสะสมของบริษัทฯ ณ 30 กันยายน 2563 ซึ่งอยู่ที่ 110 ล้านบาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 18 มกราคม 2564 และจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564
การจ่ายปันผลระหว่างกาลดังกล่าวประกอบด้วย 1.จ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นหุ้นสามัญในอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล จำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน 60 ล้านหุ้น รวมมูลค่าไม่เกิน 30 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรา 0.05000 บาทต่อหุ้น (กรณีมีเศษของหุ้นจะปัดเศษลง) เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องการซื้อขายหุ้นบนกระดานหลักทรัพย์ และ 2.จ่ายปันผลเป็นเงินสด อัตราหุ้นละ 0.00556 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินไม่เกิน 3,336,000 ล้านบาท (หักภาษี ณ ที่จ่าย 10%)
ทั้งนี้ ที่ประชุมบอร์ดยังอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทฯ อีก 30 ล้านบาท เป็น 330 ล้านบาท จากเดิมมีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 60 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผลดังกล่าว พร้อมทั้งเตรียมจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2563 ในวันพุธที่ 13 มกราคม 2564 เวลา 14.00 น. ณ ห้องบอลรูม บางปูกอล์ฟ แอนด์ สปอร์ต อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อขออนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนและจ่ายปันผลระหว่างกาลดังกล่าว และกำหนดให้วันที่ 14 ธันวาคม 2563 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมวิสามัญ (Record Date)
กรรมการผู้จัดการ ADB กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินของบริษัทฯ งวด 9 เดือนแรกที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย.2563) เติบโตอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางภาพรวมเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยเฉพาะกำไรสุทธิที่ทำได้ 50.2 ล้านบาท เติบโต 480.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้จากการขายอยู่ที่ 990.9 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย เนื่องจากยอดขายสินค้ากลุ่มเม็ดพลาสติกคอมปาวด์สำหรับผลิตสายไฟฟ้าและเคเบิ้ล รวมถึงเม็ดพลาสติกสำหรับผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้น ราคาวัตถุดิบบางส่วนปรับลดลงในช่วงครึ่งปีแรก ประกอบกับในปีนี้บริษัทฯ ได้ปรับโครงสร้างการบริหารและระบบการจัดการภายในให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมต้นทุนและบริหารค่าใช้จ่าย ส่งผลให้มีการเติบโตที่ดีสวนกระแสเศรษฐกิจ
ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2563 วางเป้าหมายทำสถิติสูงสุดในรอบ 5 ปี จากผลการปรับโครงสร้างการบริหารภายในทุกๆ ด้านเพื่อเพิ่มยอดขายและขีดความสามารถการทำกำไร รวมถึงความต้องการใช้สินค้ากลุ่มเม็ดพลาสติกที่ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยแนวโน้มการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 4 ของปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทั้งกลุ่มเม็ดพลาสติก กลุ่มกาวและยาแนว