กลุ่ม KTIS ลดต้นทุนฝ่ากระแสโควิด ส่งผลปี 2563 มีกำไร 569 ล้านบาท

อังคาร ๐๑ ธันวาคม ๒๐๒๐ ๑๘:๐๕

กลุ่ม KTIS ผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลและอุตสาหกรรมต่อเนื่องครบวงจร แจงปัจจัยที่ทำให้ผลการดำเนินงาน ปี 2563 (ต.ค. 62 - ก.ย. 63) ฝ่ามรสุมโควิด-19 ได้สำเร็จ มีกำไรสุทธิ 568.7 ล้านบาท เพราะสามารถควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ดีในทุกด้าน ทั้งต้นทุนขาย บริหาร และต้นทุนทางการเงิน คาดราคาน้ำตาลตลาดโลกเฉลี่ยปี 2564 จะสูงกว่าปี 2563 ส่งผลให้รายได้และกำไรของกลุ่ม KTIS เติบโตได้ดี

นายณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่ม KTIS ผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลและอุตสาหกรรมต่อเนื่องครบวงจร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่ม KTIS ปี 2563 (ต.ค. 62 - ก.ย. 63) มีรายได้รวม 14,021.8 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 568.7 ล้านบาท

"แม้ว่าการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่างๆ จำนวนมาก รวมถึงธุรกิจของกลุ่ม KTIS ด้วย เพราะมีการล็อคดาวน์และเกิดการชะงักงันของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้ราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกช่วงปลายเดือนเมษายน 2563 ลดลงอย่างมาก อีกทั้งผลผลิตอ้อยก็ลดลงเนื่องจากปัญหาภัยแล้ง แต่ทางกลุ่ม KTIS ก็ยังสามารถทำให้ผลการดำเนินงานปี 2563 มีกำไรได้ เพราะการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด" นายณัฎฐปัญญ์กล่าว

ทั้งนี้ ต้นทุนขายและการให้บริการในปี 2563 ลดลง 1,343.3 ล้านบาท หรือลดลง 10.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2562 นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารก็ลดลง 1,246.9 ล้านบาท หรือลดลงถึง 42.5% โดยมีสาเหตุหลักมาจากเงินนำส่งสำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย ค่าขนส่งน้ำตาลทราย ค่าฝากน้ำตาลทรายและกากน้ำตาล รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรลดลง อีกทั้งค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลง 90.1 ล้านบาท หรือลดลง 29.7% และค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ลดลง 38.6 ล้านบาท หรือลดลง 32.4%

รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่ม KTIS กล่าวด้วยว่า สัดส่วนรายได้ของสายธุรกิจต่างๆ ณ สิ้นรอบบัญชีปี 2563 สายธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายยังคงมีสัดส่วนสูงสุดคือ 71.5% รองลงมาเป็นธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอล สัดส่วน 10.2% ธุรกิจผลิตและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล สัดส่วน 8.6% ส่วนธุรกิจผลิตและจำหน่ายเยื่อกระดาษชานอ้อย มีสัดส่วนรายได้ 5.2% และอื่นๆ อีก 4.5%

"จะเห็นว่ารายได้ส่วนใหญ่ของเรายังคงมาจากสายธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทราย ดังนั้น ราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้น และคาดว่าราคาเฉลี่ยปี 2564 จะสูงกว่าปี 2563 ก็จะทำให้สายธุรกิจน้ำตาลมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น อีกทั้งราคาน้ำมันที่สูงขึ้นก็ส่งผลดีต่อธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอลด้วย จึงเชื่อว่าธุรกิจของกลุ่ม KTIS ในปี 2564 จะมีการเติบโตที่ดีทั้งรายได้และกำไร" นายณัฎฐปัญญ์กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version