กรมทะเล MOU ร่วมกับ ปตท.สผ. เดินหน้าโครงการอนุรักษ์ทะเลเพื่อชีวิต (Ocean for life) วางแผนระยะยาว 10 ปี ส่งเสริมความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรท้องทะเลไทย

พุธ ๐๒ ธันวาคม ๒๐๒๐ ๑๑:๒๗

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือ ทช. ร่วมกับ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือการอนุรักษ์ทะเลเพื่อชีวิต (Ocean for Life) ในวันอังคารที่ 1 ธันวาคม 2563 ณ ห้องประชุมลำแพน ชั้น 9 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ โดยมีนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และนายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปตท.สผ. เป็นผู้ลงนาม พร้อมกันนี้ได้มีคณะผู้บริหารจากทั้ง 2 หน่วยงาน ร่วมเป็นสักขีพยาน

การดำเนินการภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นแผนระยะยาว 10 ปี ตั้งแต่ปี 2563 - 2573 เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ ส่งเสริมให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรท้องทะเลไทย และเพิ่มรายได้แก่ชุมชนใน 17 จังหวัดรอบอ่าวไทย โดยมีแผนการดำเนินงานการอนุรักษ์ทะเลเพื่อชีวิต หรือ Ocean for Life ซึ่งครอบคลุมการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลหลายด้าน ได้แก่ การบริหารจัดการขยะทะเล การป้องกันขยะลงสู่ทะเลด้วยการสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนทั่วไปให้ตระหนักถึงความสำคัญของทะเล และการใช้เทคโนโลยี เข้ามาช่วยในการกำจัดขยะและแปรรูปขยะเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ การปลูกและฟื้นฟูป่าชายเลนให้สามารถเป็นแหล่งอนุบาล สัตว์น้ำ ชายฝั่งและระบบนิเวศที่มีความสมบูรณ์ การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักสัตว์น้ำเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์วิถีประมงชายฝั่งอย่างยั่งยืน และการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ทะเลหายาก การจัดทำแนวเขตอนุรักษ์และเพิ่มแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลบริเวณชายฝั่ง หรือบ้านปลา เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพและปริมาณสัตว์น้ำ และรักษาสมดุลของระบบนิเวศทางทะเล และการสนับสนุนการผลิตและจำหน่ายอาหารทะเลแปรรูปที่มีคุณภาพและมาตรฐาน รวมถึงการสนับสนุนงานวิจัยเพื่อการตรวจติดตามสุขภาพของมหาสมุทรและความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล

นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือการอนุรักษ์ทะเลเพื่อชีวิต (Ocean for life) ว่า ภารกิจหลักของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง คือการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง เพื่อความมั่งคั่ง สมดุล และยั่งยืนของทะเลไทย เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ แต่ด้วยพื้นที่ทางทะเลกว่า 202 ล้านไร่ ป่าชายเลนกว่า 2.58 ล้านไร่ เกาะกว่า 533 เกาะ และชายฝั่งความยาวกว่า 3,151 กิโลเมตร จำเป็นต้องหาพันธมิตรที่มีอุดมการณ์ ความพร้อม และมีความตั้งใจที่จะอนุรักษ์ ดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มาร่วมกันปฏิบัติงาน ซึ่งบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เป็นบริษัทชั้นนำด้านการผลิตและสำรวจปิโตรเลียมในประเทศไทย ที่ให้ความสำคัญในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลที่ดีมาโดยตลอด จึงได้ร่วมหารือแนวทางการดำเนินงานร่วมกัน และตกลงลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือการอนุรักษ์ทะเลเพื่อชีวิต (Ocean for life) ซึ่งจะร่วมกันดำเนินงานโครงการ/กิจกรรม เป็นระยะเวลา 10 ปี ทั้งนี้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และ ปตท.สผ. จะได้ตั้งคณะกรรมการอำนวยการและคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อน การดำเนินงานโครงการอนุรักษ์ทะเลเพื่อชีวิตต่อไป

ด้าน นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปตท.สผ. กล่าวว่า "ปตท.สผ. มีภารกิจหลักในการสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียม เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ โดยพื้นที่ปฏิบัติการ ส่วนใหญ่ของ ปตท.สผ. อยู่ในทะเล ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของเราที่ต้องช่วยกันดูแลและปกป้อง ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปตท.สผ. มีการดำเนินกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ในการอนุรักษ์ท้องทะเลหลายโครงการ โดยได้ร่วมมือกับชุมชน หน่วยงานราชการส่วนกลางและท้องถิ่นและทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี ส่งผลให้การดำเนินกิจกรรมประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม เช่น โครงการศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักลูกปู โครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล และโครงการแหล่งเรียนรู้เรือหลวงไทยใต้ทะเล เป็นต้น ซึ่ง ปตท.สผ. มีความยินดี อย่างยิ่งที่แนวทางการอนุรักษ์ทะเลเพื่อชีวิต หรือ Ocean for Life ได้รับการสนับสนุนจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อเสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพให้กับทะเลไทยอย่างยั่งยืน รวมทั้ง ยังเป็นการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาวให้กับชุมชนรอบชายฝั่ง ซึ่งเป็นเหมือนเพื่อนบ้านของเราอีกด้วย"

สำหรับพื้นที่เป้าหมายในการดำเนินงานในครั้งนี้ ได้แก่ พื้นที่ 17 จังหวัดรอบอ่าวไทย ได้แก่ จังหวัดสงขลา นครศรีธรรมราช ปัตตานี สุราษฎร์ธานี ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นราธิวาส รวมทั้ง กรุงเทพมหานคร ซึ่งการดำเนินงานในครั้งนี้ ยังสอดคล้องกับเป้าหมายในการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ SDG 14 Life Below Water การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ทรัพยากรทางทะเลและมหาสมุทรอย่างยั่งยืนอีกด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version