นางสาวซ่อนกลิ่น พลอยมี ที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติในประเทศไทย ประจำปี 2563 ในงานสัมมนาเรื่อง "ลงทุนไทย 2563: มุมมองอนาคตไทยในสายตาต่างชาติ" เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร โดยได้สำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 600 บริษัท พบว่าผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 96 มีแผนการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง โดยร้อยละ 76.67 ยังคงรักษาระดับการลงทุน ในขณะที่ร้อยละ 19.33 มีแผนจะขยายการลงทุนเพิ่มเติม แม้จะอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
สำหรับปัจจัยหลักที่ทำให้นักลงทุนตัดสินใจขยายหรือรักษาระดับการลงทุนในประเทศไทยนั้น พบว่าอันดับแรก คือการมีสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนที่กระตุ้นให้ลงทุนในประเทศไทย อันดับสอง มีวัตถุดิบและชิ้นส่วน และอันดับสาม คือมีความพร้อมของอุตสาหกรรมสนับสนุน
ทั้งนี้ ผลสำรวจนักลงทุนถึงผลกระทบจากโควิด-19 พบว่า ร้อยละ 63.17 นั้น ธุรกิจได้รับผลกระทบแต่ยังสามารถดำเนินธุรกิจได้ ร้อยละ 29.17 ธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างมาก แต่ยังสามารถดำเนินธุรกิจได้ ร้อยละ 7.5 ธุรกิจไม่ได้รับผลกระทบ สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ มีเพียงร้อยละ 0.17 หยุดการดำเนินธุรกิจ
"แม้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จะส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย แต่นักลงทุนยังมีแผนขยายการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยนักลงทุนมีความเห็นว่าประเทศไทยมีปัจจัยเอื้ออำนวยหลายด้าน ทั้งวัตถุดิบและชิ้นส่วนที่เพียงพอ มีบริการด้านการสื่อสาร ระบบขนส่งและโลจิสติกส์ รวมทั้งสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุน" นางสาวซ่อนกลิ่นกล่าว
ทั้งนี้ มาตรการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอที่นักลงทุนใช้และคาดว่าจะใช้มากที่สุด คือ มาตรการบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ร้อยละ 44.86 อันดับสอง คือมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ร้อยละ 37.74 และอันดับสาม คือมาตรการกระตุ้นการลงทุน ร้อยละ 31.45
สำหรับผลการสำรวจความพึงพอใจต่อการบริการของบีโอไอ พบว่านักลงทุนต่างชาติมีความพึงพอใจค่อนข้างมากเกือบทุกด้าน รวมทั้งนักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่รับทราบถึงการให้บริการของบีโอไอผ่านระบบออนไลน์ โดยบริการที่ใช้มากที่สุด ร้อยละ 75.94 คือระบบรายงานผลประกอบการและรายงานความคืบหน้าของโครงการ รองลงมา คือระบบตรวจสอบสถานภาพเอกสารทางอินเทอร์เน็ต และการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับงานสิทธิประโยชน์ด้านวัตถุดิบ
นักลงทุนมีความเห็นเพิ่มเติมว่ารัฐบาลไทย รวมทั้งบีโอไอควรมีการดำเนินการต่างๆ เพื่อสร้างบรรยากาศการลงทุนให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น การปรับปรุงระบบราชการให้มีประสิทธิภาพ การยกเลิกใบอนุญาตหรือกระบวนการต่างๆ ที่ไม่จำเป็น การมีแนวทางการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ชัดเจน เป็นต้น