โดยผู้เข้าแข่งขัน ทั้ง 2 สาขา ได้ผ่านรอบคัดเลือกโดยการทดสอบความรู้ภาคทฤษฎีทางออนไลน์ เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2563 หลังจากนั้นผู้ที่เข้ารอบได้ใช้ทักษะการนำไปประยุกต์ใช้ ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศภาคปฏิบัติ ทั้งโจทย์ PM 2.5 ในสาขา IoT เพื่อเปลี่ยนชีวิตในยุคดิจิทัล และโจทย์ การสร้าง Chatbot ช่วยตอบคำถามลูกค้าเกี่ยวกับการสำรองห้องพักโรงแรม ในสาขา AI เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยทางโครงการฯ ได้ผู้ชนะจากการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ทั้ง 2 สาขา จำนวนทั้งสิ้น 6 ทีม
คุณสุเทพ อุ่นเมตตาจิต กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทจีเอเบิล และประธานคณะอนุกรรมการจัดการแข่งขัน กล่าวว่า "จีเอเบิล รู้สึกยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมสนับสนุนโครงการค้นหาสุดยอดฝีมือโทรคมนาคมและไอซีทีเทิดพระเกียรติ อย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 13 แล้ว ซึ่งเป็นความร่วมมือกับทีโอทีและภาคีภาครัฐหลายหน่วยงาน การแข่งขันในทุกครั้งที่ผ่านมา เราได้เห็นถึงศักยภาพของเยาวชนและบุคคลากรไทยที่พัฒนาไปไกลมากในปัจจุบัน ผู้เข้าแข่งขันทุกคน มีความรู้และทักษะทางด้านโทรคมนาคมและไอซีทีอย่างดีเยี่ยม ในฐานะผู้สนับสนุนโครงการ ผมต้องขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะทุกคนและหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้เข้าแข่งขันจะค้นพบศักยภาพในตัวเองและนำประสบการณ์ที่ได้จากการแข่งขันไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการประกอบวิชาชีพ และยกระดับเทคโนโลยีทางด้าน AI และ IoT ต่อไปในอนาคต"
ทั้งนี้ "โครงการค้นหาสุดยอดฝีมือ โทรคมนาคมและไอซีทีเทิดพระเกียรติ" เป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา และบุคคลทั่วไปที่สนใจเข้าร่วมแข่งขันทางด้านเทคโนโลยี ใน 2 สาขา ได้แก่ สาขา IoT (Smart NodeMCU) และ สาขา AI (Chatbot) ชิงเงินรางวัลรวม 160,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศจากมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช โดย มูลนิธิ มสวท.ได้ร่วมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน คณะอนุกรรมการกำหนดมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติสาขาช่างโทรคมนาคม คณะอนุกรรมการฝ่ายวิชาการเฉลิมพระเกียรติ มูลนิธิ 5 ธันวามหาราช ภายใต้การสนับสนุนของสถาบันวิชาการ ทีโอที บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) และบริษัท จีเอเบิล จำกัด ร่วมจัดทำโครงการฯ เพื่อเป็นเวทีผลักดันให้บุคลากรและเยาวชนไทยมุ่งพัฒนาตนเองสู่ยุคดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ โดยในปี 2563 นี้ ทางโครงการฯได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 13 แล้ว และมีผู้ให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ กว่าหลายร้อยคน