นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2563 SET Index ปิดที่ 1,408.31 จุด เพิ่มขึ้น 17.85% จากเดือนก่อนซึ่งปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดของปี 2563 และปรับเพิ่มขึ้นสูงที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในเอเซีย ทั้งนี้หากพิจารณากลุ่มหลักทรัพย์ที่ปรับตัวดีกว่า SET Index ได้แก่ หลักทรัพย์ขนาดใหญ่ (SET50 และ SET100) ในหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ และธนาคาร จากการที่ธุรกิจมีความมั่นคงและราคาหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงมากในช่วงก่อนหน้าทำให้ได้รับความสนใจโดยเฉพาะจากผู้ลงทุนต่างชาติ
ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย
- ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2563 SET Index ปิดที่ 1,408.31 จุด เพิ่มขึ้น 17.85% จากเดือนก่อน ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดของปี 2563 และปรับเพิ่มขึ้นสูงที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในเอเซีย และหากพิจารณากลุ่มหลักทรัพย์ที่ปรับตัวดีกว่า SET Index ในเดือนพฤศจิกายน ได้แก่ หลักทรัพย์ขนาดใหญ่ (SET50 และ SET100) ในหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ และธนาคาร
- เมื่อพิจารณารายอุตสาหกรรมเทียบกับสิ้นปี 2562 พบว่าหลายอุตสาหกรรมปรับตัวดีกว่า SET Index โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่มีความเชื่อมโยงกับการส่งสินค้าออกไปยังต่างประเทศ อาทิเช่น กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม
- มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมใน SET และ mai ในเดือนพฤศจิกายน 2563 อยู่ที่ 90,084 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยรายเดือนที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2563 มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมอยู่ที่ 65,917 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
- ผู้ลงทุนต่างชาติมีสถานะเป็นผู้ซื้อสุทธิเป็นเดือนแรกในรอบ 16 เดือน ด้วยมูลค่า 32,506 ล้านบาท (1.08 พันล้าน USD) ซึ่งคิดเป็นมูลค่าเงินทุนไหลเข้าสูงที่สุดใน ASEAN อีกด้วย ทำให้ใน 11 เดือนแรกของปี 2563 ผู้ลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย 2.65 แสนล้านบาท จากที่ขายสุทธิ 2.98 แสนล้านบาท ในเดือนก่อนหน้า
- ในเดือนพฤศจิกายน 2563 มีกิจกรรม IPO อย่างต่อเนื่อง โดยมีบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายใหม่ใน SET 4 บริษัท ใน mai 2 บริษัท ทำให้ใน 11 เดือนแรกของปี 2563 SET มีมูลค่าระดมทุน (IPO) สูงที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ใน ASEAN
- Forward และ Historical P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2563 อยู่ที่ระดับ 26.3 เท่า และ 24.0 เท่าตามลำดับ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 18.5 เท่า และ 22.2 เท่าตามลำดับ
- อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2563 อยู่ที่ระดับ 3.00% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 2.50%
ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
- ในเดือนพฤศจิกายน 2563 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 621,620 สัญญา สูงสุดในรอบ 7 เดือน หรือเพิ่มขึ้น 66.7% จากเดือนก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นจาก SET50 Index Futures และ Single Stock Futures เป็นสำคัญ โดยในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2563 ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 472,363 สัญญา เพิ่มขึ้น 12.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่เพิ่มขึ้นจาก SET50 Index Futures , Gold Online Futures และ Currency Futures